นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สร้างความรู้ ความเข้าใจ และสิทธิประโยชน์ ด้านการประกันภัย พ.ร.บ. ให้กับผู้ประกอบการ พนักงานโรงงาน และชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรม
ทั้งนี้ กนอ. จะนำร่องในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 3 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จังหวัดระยอง ,นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ โดยจากการสำรวจข้อมูลการจราจรในนิคมนำร่องฯ ทั้ง 3 แห่ง พบว่า มีจำนวนการใช้รถยนต์และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 72,965 คัน แบ่งออกเป็น
โดยนิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน มีจำนวนรถจักรยานยนต์ 3,500 คัน สำหรับสถิติการเกิดอุบัติเหตุ พบว่าภายหลังจากที่ได้ดำเนินโครงการ จำนวนอุบัติเหตุเกิดอุบัติเหตุมีแนวโน้มลดลง
นายวีริศ กล่าวอีกว่า กนอ.ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของผู้ประกอบการ พนักงานโรงงาน ตลอดจนชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรม ซึ่งสอดรับกับภารกิจของ กนอ.ในการกำกับดูแลบริหารจัดการด้านความปลอดภัยของนิคมอุตสาหกรรมให้เป็นไปตามกฎหมาย สร้างความเชื่อมั่นต่อสาธารณชน
"จะผลักดันให้เกิดความรู้ความเข้าใจถึงสิทธิประโยชน์ และตระหนักถึงความสำคัญของการทำประกันภัย พ.ร.บ.ว่า เป็นสิ่งที่กฎหมายกำหนดให้ผู้ขับขี่รถจำเป็นต้องทำ รวมถึงสร้างการรับรู้ถึงบทบาทหน้าที่ของกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยให้กับผู้ประกอบการ พนักงานโรงงาน ตลอดจนชุมชนรอบนิคมอุตสาหกรรมทั่วประเทศที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ กนอ. เพื่อบรรลุเป้าหมายให้พื้นที่นิคมอุตสาหกรรมเป็นต้นแบบด้านความปลอดภัย”
นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คปภ. กล่าวว่า ที่ผ่านมา คปภ.ขับเคลื่อนด้านประกันภัย พ.ร.บ.ในหลากหลายมิติอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย
"ความร่วมมือดังกล่าวเพื่อต่อยอดการบูรณาการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการรณรงค์ประชาสัมพันธ์ด้านประกันภัย พ.ร.บ. ตลอดจนสร้างความร่วมมือด้านเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสาร และการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อสนับสนุนงานวิชาการด้านประกันภัย พ.ร.บ. โดยมีผลใช้บังคับเป็นระยะเวลา 3 ปี"