นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน)หรือTWPC เปิดเผยว่าการฟื้นตัวของตลาดหลังวิกฤติโควิด-19ในช่วง3ปีที่ผ่านมาพบว่า วัตถุดิบและอาหารยังมีความต้องการมากขึ้น ดังนั้นในปี 2566 บริษัทยังคงมุ่งมั่นก้าวเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐ ให้กว้างและลงลึกมากขึ้น
เนื่องจากเล็งเห็นแนวโน้มความต้องการบริโภคสินค้าในประเทศจีนที่กลับมาฟื้นตัวจากการเปิดประเทศในปี 2566 รวมถึงความต้องการจากลูกค้าที่มองหาโซลูชั่นด้านอาหารที่สามารถตรวจสอบแบบย้อนกลับได้ มีความคุ้มค่า และสะดวกต่อผู้บริโภค
โดยบริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะยกระดับการส่งมอบโซลูชั่นด้านอาหารให้รวดเร็วและครอบคลุมกว่าเดิม นอกจากนี้ยังเน้นกลยุทธ์ในการสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ทั้งในไทย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย และทั่วโลก โดยความต้องการสินค้าในพอร์ททั้งหมดของบริษัทมีการเติบโตมากยิ่งกว่าในช่วงก่อนโควิด-19 และในปีนี้บริษัทจะเดินหน้าทำงานอย่างรวดเร็วและเต็มที่
โดยพัฒนาสิ่งใหม่ๆ จากกลยุทธ์ด้านนวัตกรรมอาหารและผลิตภัณฑ์ เช่น ผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นของเราที่ปัจจุบันเป็นสินค้าที่เติบโตรวดเร็วที่สุดในไทย รวมถึงในภูมิภาคนี้
"บริษัทมองว่ารายได้ปีนี้จะตอบโต 12,000-13,000 ล้านบาทหรือโต 20% จากปีที่ผ่านมา และในปี 2565 ไทยวามียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์มากกว่า 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14% จากปี 2564 ด้วย"
สำหรับแผนการดำเนินงานในอนาคตจนถึงปี 2568 บริษัทวางแผนที่จะสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างมากในทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขยายทั้งฐานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย และการทำการตลาด จาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้าเสริมความแข่งแกร่งทางของการดำเนินงานในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ จะรุกลงทุนในด้านพลังงานทดแทนอย่างเต็มที่ โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 15 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในฐานะองค์กรหลัก
นอกจากนี้ ในปี 2565 บริษัทได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ในด้านบรรจุภัณฑ์ ภายใต้แบรนด์ ROSECO ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ไบโอพลาสติกที่ผลิตจากแป้งมันสำปะหลังครั้งแรกในโลก เพื่อแก้ปัญหาพลาสติกที่เกิดขึ้นทั่วโลก รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยบริษัทยังมีแผนที่จะเพิ่มการลงทุนในกลุ่มธุรกิจสินค้าพิเศษที่มีมูลค่าเพิ่มสูง (HVA products) ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่จะมีส่วนสร้างการเติบโตให้กับบริษัท