จากกรณีประชาชนในพื้นที่ตำบลสองคอน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี ร้องเรียนว่ามีรถบรรทุกลักลอบนำสารเคมีมาทิ้งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย ในช่วงวันที่ 8 – 9 กุมภาพันธ์2566 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ตรวจสอบจนสามารถตรวจยึดรถบรรทุกสารเคมี ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 84-0744 พระนครศรีอยุธยา
พร้อมควบคุมตัวผู้ขับขี่และผู้โดยสารส่งสถานีตำรวจภูธรอำเภอแก่งคอย เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566 ขณะขับขี่เข้ามาในพื้นที่เกิดเหตุ และเมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลังพบรถคันดังกล่าววิ่งเข้า-ออกพื้นที่ลักลอบทิ้ง โดยศปก.พล.ได้ลงพื้นที่อีกครั้ง เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566
พบกากของเสียจากรถบรรทุกและบริเวณพื้นที่ลักลอบทิ้งในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย มีลักษณะและคุณสมบัติที่สอดคล้องกัน เป็นของเหลวสีเขียวใส ผลวิเคราะห์ตัวอย่างกากของเสียจากรถบรรทุกและบริเวณพื้นที่ลักลอบทิ้งมีค่า pH เท่ากับ 0.1 และ 1.72 ตามลำดับ เป็นกรดรุนแรง เป็นของเสียอันตราย
ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การกำจัดสิ่งปฏิกูลที่ไม่ใช้แล้ว พ.ศ. 2584 และยังเข้าข่ายเป็นของเสียเคมีวัตถุ (Chemical Waste) ประเภทที่ 3 ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง บัญชีรายชื่อวัตถุอันตราย พ.ศ. 2556
จากเหตุการณ์ดังกล่าว นายพิทยา ปราโมทย์วรพันธุ์ รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) และผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (ศปก.พล.) เปิดเผยว่า พบความเชื่อมโยงของรถบรรทุกกับบริษัทรับกำจัดของเสียแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เนื่องจากเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2566 มีรถกระบะคันหนึ่งเข้ามาจอดเทียบรถบรรทุกที่ถูกตรวจยึดเป็นของกลาง ณ องค์การบริหารส่วนตำบลสองคอน
พฤติการณ์มีลักษณะกำลังขนย้ายกากของเสียออกจากรถบรรทุกที่ถูกตรวจยึดไว้ ผลตรวจสอบทะเบียนรถยนต์กระบะ พบชื่อผู้ครอบครองคือ บริษัท เอกอุทัย จำกัด และยังมีความเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ลักลอบทิ้งกากของเสียภายในโกดัง ตำบลภาชี อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2566
โดยตรวจพบของเสียอันตรายชนิดเหลวมีสีเขียวใส มีค่า pH เท่ากับ 1 ถูกทิ้งในบ่อน้ำและลำรางด้านหน้าโกดังจำนวนมาก ซึ่งมีลักษณะคล้ายคลึงกับที่ตรวจพบจากรถบรรทุกที่ถูกตรวจยึดและบริเวณพื้นที่ลักลอบทิ้งกากของเสียในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมแก่งคอย โดยคนขับรถและเจ้าของรถบรรทุกสารภาพว่านำสารเคมีมาจากโกดังที่อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้รับการว่าจ้างจากชายคนหนึ่งที่แสดงตัวว่าเป็นผู้จัดการบริษัท เอกอุทัย จำกัด อีกด้วย
ขณะนี้ สำนักงานนิคมอุตสาหกรรมแก่งคอยได้แจ้งความดำเนินคดีและเรียกร้องค่าเสียหายกับผู้กระทำความผิดแล้ว โดยในส่วนสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสระบุรี อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์ลักษณะและสมบัติกากของเสียเพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษกับผู้กระทำความผิดต่อไป