นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ได้ร่วมผนึกกำลังกันเพื่อจัดงาน Thailand Mega Fair & Festival 2023 นับจากที่รัฐบาลได้เดินหน้าฟื้นสัมพันธ์กับประเทศซาอุฯ นำมาสู่การเปิดความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในทุกมิติ เมื่อต้นปี 2565 ถือได้ว่าเป็นการเปิดศักราชใหม่ที่จะทำให้ไทยและซาอุฯ ได้แลกเปลี่ยนการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และมิติอื่นๆ กันมากยิ่งขึ้น
นอกเหนือจากนั้น ทั้งสองประทศได้ตกลงที่จะกระชับความร่วมมือด้านบริการทางอากาศ โดยคณะรัฐมนตรีรับทราบบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยบริการทางอากาศระหว่างไทยและซาอุฯ เพื่อยกระดับความเชื่อมโยงทางอากาศ ซึ่งจะทำให้ทั้งสองประเทศเพิ่มจำนวนเที่ยวบินโดยสารระหว่างกันจาก 9 เที่ยวบินต่อสัปดาห์เป็น 42 เที่ยวต่อสัปดาห์ และการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินขนส่งสินค้าและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ โดยข้อตกลงบริการทางอากาศเป็นหนึ่งในข้อตกลงหลายฉบับหลังจากไทยและซาอุฯ เห็นพ้องที่จะฟื้นฟู กว่า 33 ปีที่แล้ว
“สภาหอฯเป็นองค์กรเอกชนรายแรกของไทย ที่ได้นำคณะภาคธุรกิจของไทย เดินทางเยือนซาอุฯ อย่างเป็นทางการร่วมกับกระทรวงต่างประเทศเมือเดือนพฤษภาคม ปี 2565 โดยในการเยือนครั้งนั้น นับเป็นการเปิดประตูให้กับภาคเอกชนครั้งสำคัญ และเป็นโอกาสให้ภาคธุรกิจไทยได้พบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการตัวจริงของซาอุฯ และเห็นได้ว่านักธุรกิจชาวซาอุฯ ก็มีความพร้อมที่จะเจรจา และมีความสนใจที่จะร่วมลงทุนกับประเทศไทยในหลากหลายสาขาธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจทางด้านสุขภาพ อาหาร และการบริการ ซึ่งได้มีหลายบริษัทของไทยเริ่มเข้าไปลงทุนในซาอุฯ แล้ว ไม่ว่าจะเป็น PPT OR, SCG, เครือดุสิตธานี และหลากหลายสาขาธุรกิจที่กำลังเข้าไปแสวงหาโอกาสใหม่ในซาอุฯ”
จากโอกาสทางเศรษฐกิจของไทยและซาอุฯ จึงเป็นที่มาที่ สภาหอการค้าฯ จะได้ร่วมกับ กลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จํากัด (มหาชน) ที่ถือเป็นบริษัทที่จัดอีเวนท์สำคัญระดับนานาชาติของไทย ในการร่วมกันจัดงาน Thailand Mega Fair & Festival 2023 โดยงานดังกล่าว จะเป็นการยกทัพผู้ประกอบการกลุ่มสินค้าที่มีความโดดเด่นของไทย อาทิ กลุ่มธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม
ท่องเที่ยวและบริการ สุขภาพและการแพทย์ เทคโนโลยีการเกษตร พลังงาน หุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ วัสดุก่อสร้างและอุปกรณ์ตกแต่ง ร่วมจัดแสดง ณ ประเทศซาอุดีอาระเบีย และอาจถือได้ว่าจะเป็นงานแสดงสินค้าและบริการของไทย ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซาอุฯ อีกด้วย และจะเป็นเวทีที่ยกระดับสินค้าและบริการของไทยให้เป็นที่รู้จักในซาอุฯ และตะวันออกกลางมากยิ่งขึ้นเป็นโอกาสเชื่อมโยงทางการค้าระหว่าง ผู้ผลิต
ซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่าย ทั้งกลุ่มธุรกิจ B2B และ B2C ของทั้งสองประเทศ และถือเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ Soft Power ของไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในตลาดตะวันออกกลางที่มีศักยภาพและกำลังซื้อสูง งานในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการขยายการค้า การลงทุน ระหว่างไทยและซาอุฯ ให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดต่อไป
ด้านนายเกรียงไกร กาญจนะโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน)เปิดเผยว่าที่ผ่านมาบริษัทฯ เป็นผู้บุกเบิกตลาดใหม่ๆ ให้กับธุรกิจคนไทยเสมอ ผ่านการจัดงานแสดงสินค้าและบริการของไทย อย่างต่อเนื่องตลอดเวลา 9 ปี ในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นเมียนมาร์ กัมพูชา และ ไทย การจัดงานแสดงสินค้าในครั้งนี้ ถือเป็นงานที่ผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจ B2B และ B2C ที่ต้องการขยายตลาด มองหาโอกาสใหม่ๆให้กับธุรกิจ การสรรหาพาร์ทเนอร์ ผู้จัดจำหน่าย ซัพพลายเออร์ การเพิ่มโอกาสการเชื่อมโยงทางการค้า ของสินค้าและบริการของไทยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในซาอุฯ เนื่องจาก ซาอุฯ เป็นประตูสู่ตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก
โดยในปี 2022 มี GDP per capita: 27,941 ด้วยจำนวนประชากร 36 ล้านคน ประชากรมีกำลังซื้อสูงและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ด้วยศักยภาพทางเศรษฐกิจของซาอุฯ มีอัตราการเติบโตในหลายภาคส่วน จากขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 18 ของโลก คาดว่าจะขึ้นสู่อันดับที่ 15 เพิ่มการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศจาก 3.8% เป็น 5.7% ของ GDP พร้อมทั้งมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ของประเทศตลอดจนวัฒนธรรมผสมผสานระหว่างสามทวีป
“การเติบโตนี้ส่งผลให้เกิดการสร้างฐานเศรษฐกิจที่มั่นคง กลายเป็นหนึ่งในยี่สิบประเทศที่มีเศรษฐกิจโลกที่ใหญ่ที่สุดและเป็นสมาชิกของ G20 ซาอุฯ จึงเป็นหนึ่งในประเทศหลักในเศรษฐกิจโลกและตลาดน้ำมันโลก การปฏิรูปโครงสร้างทางเศรษฐกิจและการเงิน ซึ่งส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจในขณะที่รักษาเสถียรภาพและความยั่งยืนทางการเงิน ภาคการธนาคารที่มีประสิทธิภาพ เห็นได้ชัดจากการปรับปรุงสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในราชอาณาจักร และความพยายามอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ภาคเอกชนสนับสนุนการกระจายความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและเอาชนะอุปสรรคต่าง ๆ เพื่อให้มีความน่าสนใจมากขึ้นในการลงทุนในทุกภาคส่วน รวมทั้งการปฏิรูปโครงสร้างทางสังคม ที่สนับสนุนให้เกิดการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยโครงการ Mega Project มากมาย”
โดยมีแนวคิดหลักคือ เพิ่มโอกาสใหม่ทางธุรกิจ, ขยายโอกาสทางการค้าการลงทุน, หาคู่ค้าและพันธมิตรทางการค้า, ขยายดิสทริบิวเตอร์ รวมถึงการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่วัฒนธรรมไทยไปยังประเทศซาอุฯ รองรับความต้องการที่หลากหลายและต้องการสินค้าไทยจำนวนมากในตลาดซาอุฯ ทางบริษัทฯ คาดหวังมีผู้เข้าร่วมงาน 12,000 คน
สำหรับงาน Thailand Mega Fair & Festival 2023 – The Kingdom of Saudi Arabia จัดขึ้นระหว่าง 13-16 ธันวาคม 2566 ณ The Arena Riyadh, ริยาด ซาอุดีอาระเบีย งานแสดงสินค้าและบริการของไทย ที่ยิ่ง ใหญ่ที่สุดในซาอุดีอาระเบีย ที่ได้รวบรวมสินค้าและบริการนวัตกรรมจากประเทศไทยทุกด้าน ไปสู่ใจกลางของกำลังซื้อที่ทรงพลังที่สุดในตะวันออกกลาง หากนักลงทุน ผู้ประกอบการ ผู้ผลิต ซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่าย ผู้ค้าปลีก ธุรกิจการบริการ ร้านอาหาร โรงแรม โรงพยาบาล พลังงาน นวัตกรรมหุ่นยนต์