นายจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลกระทบต่อราคาสินค้ากลุ่มอาหาร โดยเฉพาะน้ำดื่มบรรจุขวด และเครื่องดื่ม กรณีที่ รัฐบาลอาจจะปรับขึ้นค่าน้ำ15-20% ว่าจากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนสินค้าสินค้าน้ำดื่ม บรรจุขวดพบว่าได้รับผลด้านต้นทุนจากรณีการปรับขึ้นค่าน้ำประปาไม่มาก เนื่องจากน้ำดื่มส่วนใหญ่ผลิตมาจากน้ำบาดาลไม่ใช่น้ำประปาจึงเป็นต้นทุนคนละส่วนกัน ส่วนสินค้าในอุตสาหกรรมเครื่องดื่มอื่นๆ เช่น น้ำหวาน น้ำอัดลม พบว่ามีสัดส่วนต้นทุนน้ำดิบในการผลิตน้อยเช่นกัน จึงไม่มีเหตุผลที่ผู้ประกอบการจะขอปรับขึ้นราคาสินค้า
ส่วนสินค้าในกลุ่มเม็ดพลาสติก ซึ่งอยู่ในอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่มีการใช้น้ำดิบเป็นต้นทุนนั้นจากการวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนการผลิตพบว่าอุตสาหกรรมพลาสติกใช้น้ำประปาในการหล่อเย็นเครื่องจักรในขบวนการผลิต คิดเป็นสัดส่วนต้นทุนน้ำดิบน้อยมาก รวมทั้งระบบน้ำหล่อเย็นยังเป็นการใช้น้ำแบบหมุนเวียนเพื่อรักษาอุณหภูมิเครื่องจักร ไม่ได้ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้งหรือหมดไป
“แม้ว่าการประปาจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำประปาอีก 15-20% แต่จะส่งผลกระทบต่อต้นทุนการผลิค สินค้าน้ำดื่ม และเครื่องดื่มน้อยมาก จึงไม่มีนัยสำคัญ ที่ผู้ผลิตและผุ้ประกอบการจะมาใช้เป็นเหตุผลในการยื่นขอปรับขึ้นราคาสินค้า โดยในส่วนของน้ำดื่มบรรจุขวดนั้น ไม่ใช่สินค้าที่อยู่ในรายการควบคุม แต่เป็นสินค้าที่กรม ติดตามราคา”