นายกรัฐมนตรีรับทราบ รายงานดัชนีวัดประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศประจำปี 2566 (International Logistics Performance Index: LPI 2023) ของ ธนาคารโลก (World Bank) และยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ ประเทศไทย ได้รับการจัดอันดับประเทศที่มีระบบโลจิสติกส์มีประสิทธิภาพสูงเป็นอันดับที่ 34 ของโลก จากทั้งหมด 139 ประเทศ และเป็นอันดับที่ 3 ของ อาเซียน
นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยวันนี้ (7 พ.ค.) ว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานของธนาคารโลกที่เผยแพร่ดัชนีวัดประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ระหว่างประเทศ ประจำปี 2566 ซึ่งจากการวัดความสามารถของประเทศต่าง ๆ 139 ประเทศในการเคลื่อนย้ายสินค้าข้ามพรมแดน โดยประเมินจาก 6 ตัวชี้วัด พบว่า
ประเทศไทยได้คะแนนในแต่ละตัวชี้วัด ดังนี้
ทั้งนี้ ไทยมีคะแนนเฉลี่ยรวม 3.5 คะแนน เพิ่มขึ้นจากการประเมินครั้งก่อนในปี 2561 ซึ่งไทยได้คะแนนเฉลี่ยรวม 3.41 คะแนน
ในปีนี้ไทยได้รับการจัดอันดับที่ 34 ของโลก และอันดับที่ 3 ของอาเซียน รองจากสิงคโปร์ ซึ่งได้อันดับที่ 1 ของโลก ด้วยคะแนนเฉลี่ย 4.3 คะแนน และมาเลเซียได้อันดับที่ 26 ของโลก ด้วยคะแนนเฉลี่ย 3.6 คะแนน
นายกรัฐมนตรียินดีต่อผลการจัดอันดับประสิทธิภาพระบบโลจิสติกส์ของไทย ซึ่งสะท้อนการดำเนินนโยบายของรัฐบาลที่เห็นผลเป็นรูปธรรมจากคะแนนเฉลี่ยที่เพิ่มขึ้น โดยรัฐบาลให้ความสำคัญและเชื่อในศักยภาพระบบโลจิสติกส์ของประเทศมาโดยตลอด ทั้งยัง ได้วางแนวทางการดำเนินการเพื่อผลักดันประเทศไทยให้เป็นประตูการค้าที่สำคัญของภูมิภาคในอนาคต ผ่านการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ของประเทศไทย พ.ศ. 2566-2570
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีสั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าตามแผนฯ เร่งยกระดับระบบโลจิสติกส์ของไทยให้มีประสิทธิภาพ พร้อมนำผลการประเมินมาต่อยอดพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพในแต่ละด้าน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศให้สูงขึ้น
ดูอันดับทั้งหมด คลิกที่นี่ https://lpi.worldbank.org/international/global