นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) กล่าวถึงกรณีบริเวณหน้า index living mall ถนนพระราม 2 เกิดเหตุการณ์เหล็กที่ยึดโครงสร้างสร้างชิ้นส่วนคานขาด ทำให้คานหล่นลงพื้น และคนงานที่กำลังยึดเกี่ยวสลิงอยู่บนคานร่วงหล่นลงมาพร้อมกับคาน ส่งผลให้คนงานเสียชีวิต 1 ราย คนงานบาดเจ็บ 1 คน และมีรถยนต์ที่สัญจรได้รับความเสียหาย 4 คัน จากเศษคอนกรีตจากคานกระเด็นโดนรถยนต์นั้น
เบื้องต้นทางกทพ.ฯ จะดำเนินการสอบสวนโดยให้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) เข้ามาดำเนินการตรวจสอบก่อน เนื่องจากโครงการฯนี้เป็นงานเฉพาะทาง หาก วสท.เข้ามาตรวจสอบแล้ว ใช้ระยะเวลาภายใน 1 สัปดาห์ เพื่อให้ได้ข้อสรุป
“หากตรวจสอบพบว่าเป็นความประมาทเลินเล่อของผู้รับเหมา จะดำเนินคดีอาญาตามกฎหมาย หรือยึดใบอนุญาตผู้คุมงานตลอดชีพ ในส่วนของบริษัทที่เป็นผู้รับจ้างดำเนินงานก่อสร้างจะมีการติดแบล็กลิสต์ไม่ให้เข้าร่วมงานกับกทพ.อีก นอกจากนี้ในอนาคต หากมีโครงการอื่นๆที่มีการประมูลจะมีการระบุเงื่อนไขว่าบริษัทที่มีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือ ประมาทเลินเล่อจะไม่ได้รับสิทธิ์ร่วมงานกับกทพ.”
นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต้องเร่งเยียวยาความเสียหายแก่ผู้สูญเสียอย่างเต็มที่ ตามสัญญามีการรับประกันในกรณีผู้เสียชีวิตเป็นลูกจ้างของผู้รับเหมา ถือว่าเขาเป็นพนักงานของกทพ.ด้วย ซึ่งเขามีประกันและสวัสดิการที่ต้องดูแลอยู่แล้ว ส่วนความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งหมดในครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการกระทำโดยประมาทเลินเล่อหรือเหตุสุดวิสัย ทางผู้รับเหมาต้องเป็นผู้รับผิดชอบทั้งหมด
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้น อยู่ในส่วนของงานสัญญาที่ 2 งานสร้างทางยกระดับจากเซ็นทรัลพระราม 2- รพ.บางปะกอก 9 ในโครงการทางพิเศษ(ด่วน) สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร ด้านตะวันตก มีกิจการร่วมค้า ซีทีบี ประกอบด้วย บริษัท China Harbour Engineering Company Limited, บริษัท ทิพากร จำกัด และบริษัท บุรีรัมย์ธงชัยก่อสร้าง จำกัด เป็นผู้รับจ้าง
อย่างไรก็ตาม กทพ. ต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต และขออภัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา กทพ. ได้เน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยสูงสุดมาโดยตลอด โดยหลังจากนี้จะเพิ่มความเข้มงวด และพิจารณาเพิ่มมาตรการต่างๆ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก