sacit ลุยตลาดดิจิทัลเร่งเสริมแกร่งผปก.หัตถกรรมไทย

10 พ.ค. 2566 | 04:03 น.
อัปเดตล่าสุด :10 พ.ค. 2566 | 04:30 น.

sacit  เดินหน้าสร้างเครือข่ายผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมเพิ่มพูนทักษะผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์ 4 ภาค ต่อยอดสร้างสรรค์ผลงานใหม่ พร้อมเจาะตลาดดิจิทัลมากขึ้น

นายภาวี โพธิ์ยี่ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย เปิดเผยว่า sacit มีหน้าที่ในการสืบสาน สร้างสรรค์ ส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยของประเทศ ซึ่งหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่จะทำให้สำเร็จ คือ การเพิ่มขีดความสามารถของผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตกรรมไทย ให้เกิดการพัฒนาต่อยอดงานศิลปหัตถกรรมไทยทั้งในด้านคุณค่าและมูลค่ามากยิ่งขึ้น

นายภาวี โพธิ์ยี่ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย

จึงได้ดำเนินการจัดกิจกรรมการประชุมสมาชิกและสร้างเครือข่ายผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมเพิ่มพูนทักษะผู้ประกอบการงานหัตถศิลป์ ทั้ง 4 ภูมิภาค ในช่วงไตรมาสแรกและไตรมาสสองของปี 2566 ที่ผ่านมา ได้แก่ ครั้งที่ 1 ภาคอีสาน จังหวัดขอนแก่น ครั้งที่ 2 ภาคใต้ จังหวัดสงขลา, ครั้งที่ 3 ภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ และครั้งที่ 4 ภาคกลาง  ซึ่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก

 

“การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้วงการศิลปหัตถกรรมไทย เพิ่มทักษะการเรียนรู้รูปแบบใหม่ๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับโลกที่เปลี่ยนแปลงไป พร้อมเสริมศักยภาพเชิงช่างควบคู่ไปกับการพัฒนารูปแบบและบรรจุภัณฑ์ให้มีคุณภาพและมาตรฐาน

sacit ลุยตลาดดิจิทัลเร่งเสริมแกร่งผปก.หัตถกรรมไทย

รวมทั้งการขยายโอกาสทางการตลาด การเรียนรู้เรื่องการสื่อสารงานหัตถกรรมในสื่อออนไลน์ จุดเด่นของการรังสรรค์แบรนด์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลให้มีความน่าสนใจ แปลกใหม่ และตรงกับความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อที่เป็นคนรุ่นใหม่มากขึ้น ตลอดจนสนับสนุนด้านทรัพย์สินทางปัญญาแก่ชิ้นงานและภูมิปัญญาของผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย”

sacit ลุยตลาดดิจิทัลเร่งเสริมแกร่งผปก.หัตถกรรมไทย

นอกจากนี้ ยังเป็นอีกหนึ่งเวทีที่ทำให้เกิดการสร้างเครือข่ายที่เข้มแข็งระหว่างสมาชิกด้วยกัน เนื่องจากสมาชิกจะสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างสมาชิกด้วยกันเอง เพื่อนำไปปรับใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมใหม่ๆ ในการรองรับกับตลาดและความต้องการของผู้ซื้อ ซึ่งภาพรวมของการจัดงานทั้ง 4 ครั้ง ได้รับการตอบรับจากสมาชิกเข้าร่วมกิจกรรมมากกว่า 700 ราย ซึ่งสามารถนำความรู้ไปปรับใช้พัฒนาสร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมในรูปแบบใหม่ เพื่อเตรียมรับมือหรือปรับตัวให้ทันกับสถานการณ์ที่อาจมีผลกระทบกับการค้าขายในยุคปัจจุบัน ตลอดจนเพื่อเป็นแนวทางสร้างความร่วมมือเชื่อมโยงเครือข่ายความสัมพันธ์ระหว่าง ครูศิลป์ของแผ่นดิน ครูช่างศิลปหัตถกรรม ทายาทช่างศิลปหัตถกรรม และสมาขิก sacit สู่การพัฒนาและยกระดับงานศิลปหัตถกรรมไทยต่อไป