น้ำมัน WTI พุ่ง 2.78% ทะลุ 72 ดอลล์ ขานรับสหรัฐเจรจาเพดานหนี้คืบ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดพุ่งในวันพุธ (17 พ.ค.) ขานรับความหวังที่ว่าทำเนียบขาวและสภาคองเกรสจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในสัปดาห์นี้
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย. พุ่งขึ้น 1.97 ดอลลาร์ หรือ 2.78% ปิดที่ 72.83 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนก.ค. พุ่งขึ้น 2.05 ดอลลาร์ หรือ 2.74% ปิดที่ 76.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผิดนัดชำระหนี้และภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และนายเควิน แมคคาร์ธี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เห็นพ้องกันว่าทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ภายในวันอาทิตย์นี้ (21 พ.ค.)
โดยประธานาธิบดีไบเดน กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ทำเนียบขาวว่า "เราจะร่วมมือกัน เพราะไม่มีทางเลือกอื่น โดยแกนนำของสภาคองเกรสต่างตกลงกันว่า สหรัฐจะไม่ผิดนัดชำระหนี้"
ขณะเดียวกันเมื่อผู้สื่อข่าวถามนายแมคคาร์ธีว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการบรรลุข้อตกลงเพิ่มเพดานหนี้ขณะที่ประธานาธิบดีไบเดนเดินทางกลับจากญี่ปุ่นในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งนายแมคคาร์ธีกล่าวว่า "เป็นไปได้"
ตลาดยังได้ปัจจัยบวกจากการที่สำนักงานพลังงานสากล (IEA) คาดการณ์ว่าอุปสงค์น้ำมันจะสูงกว่าอุปทานราว 2 ล้านบาร์เรล/วันในช่วงครึ่งหลังของปี 2566 โดยอุปสงค์น้ำมันจากจีนครองสัดส่วนราว 60% ของความต้องการใช้น้ำมันในปี 2566
ทั้งนี้ การคาดการณ์อุปสงค์ที่แข็งแกร่งของ IEA และความคืบหน้าในการเจรจาเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐได้ช่วยสกัดปัจจัยลบจากรายงานของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) ซึ่งระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 2.5 ล้านบาร์เรล