“แจกเงินดิจิทัล” เฟส 2 ลุ้นอายุ 50 ปีขึ้นไป รับเงิน 10,000 บาท

15 พ.ย. 2567 | 05:43 น.
อัปเดตล่าสุด :15 พ.ย. 2567 | 05:43 น.

“เผ่าภูมิ โรจนสกุล” รมช.คลัง แย้ม “แจกเงินดิจิทัล” เฟส 2 ลุ้นอายุ 50 ปีขึ้นไป รับเงิน 10,000 บาท เตรียมชงบอร์ดกระตุ้นเศรษฐกิจ 19 พ.ย.นี้

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในวันที่ 19 พ.ย. นี้กระทรวงการคลังจะมีการเสนอแนวทางการกระจายเงินช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ ให้ที่ประชุมพิจารณา 

โดยเกณฑ์เบื้องต้น มีความเป็นไปได้ที่จะแจกเงินก้อนเดียวเป็นเงินสด 10,000 บาท โดยจะต้องเป็นกลุ่มที่ไม่ซ้ำซ้อนกับกลุ่มเปราะบางที่เคยได้รับเงิน 10,000 บาทไปแล้วก่อนหน้านี้ ช่วงสิ้นเดือนก.ย.นี้ 

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง

“ที่สำคัญจะต้องมีการลงทะเบียน รับเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่านแอพทางรัฐไว้แล้วก่อนหน้านี้ ส่วนกลุ่มอายุที่ได้รับ กำลังพิจารณาว่าจะเริ่มตั้งแต่ 50 ปี หรือ 60 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาที่ประชุม”

สำหรับการเสนอการกระจายเงินให้กลุ่มผู้สูงอายุ เนื่องจากกลุ่มนี้มีความสามารถในการทำรายได้น้อยกว่ากลุ่มอื่น ซึ่งมองว่าการจ่ายเงินก้อนนี้จะมีคนที่ได้รับสิทธิ์ไม่เยอะเหมือนกับเฟสแรก 

ส่วนกลุ่มผู้สูงอายุจะได้รับเงิน 10,000 บาทเมื่อไรนั้น ยังต้องรอการประชุมสรุปก่อนซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าจะเป็นปลายปีนี้หรือช่วงต้นปีหน้า สำหรับกลุ่มที่ไม่มีสมาร์ทโฟนจะมีการเปิดลงทะเบียนรับเงินดิจิทัล 10,000 บาท เร็วๆ นี้ขอให้รอติดตามความคืบหน้า

นายเผ่าภูมิ กล่าวว่า ยืนยันว่าประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านแอพฯ ทางรัฐไปแล้ว จะได้รับเงิน 10,000 บาทครบทุกคนเพราะรัฐบาลได้เตรียมงบประมาณไว้รองรับแล้วกว่า 1.8 แสนล้านบาท แต่ระยะเวลาเงื่อนไขจะเป็นอย่างไรจะต้องมีการหารือในที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ  เพื่อรับฟังความฟังความเห็นจากหลายหน่วยงานก่อนที่จะได้ข้อสรุป 

สำหรับการประชุมนัดแรกวันที่ 19 พ.ย.นี้ ในส่วนของคลังจะมีการเสนอเกี่ยวกับภาพรวมมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นภาพใหญ่ทั้งมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวเพื่อให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นครบถ้วนทุกมิติ

ทั้งนี้ การแจกเงินให้กับกลุ่มเปราะบางในช่วงที่ผ่านมานั้นกระทรวงการคลังได้มีการประเมินว่าได้ช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสี่คาดว่าจีดีพีไตรมาสนี้จะมีการขยายตัวได้ 4.3 - 4.4%