นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ รับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ ซึ่งมีมติเห็นชอบโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันปี 2565-2566
สำหรับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ปี 2565-2566 มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือด้านรายได้ของเกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน และบรรเทาความเดือดร้อนของเกษตรกรจากปัญหาผลผลิตล้นตลาด และราคาผลผลิตตกต่ำ
ส่วนการดำเนินโครงการ เป็นช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกปาล์มน้ำมันในกรณีที่ราคาขายปาล์มน้ำมัน ในประเทศตกต่ำผ่านการประกันราคาปาล์มน้ำมัน (ผลปาล์มทะลาย อัตราน้ำมัน 18%) ราคากิโลกรัมละละ 4 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่ และต้องเป็นพื้นที่ปลูกต้นปาล์มที่ให้ผลผลิตแล้ว โดยจะจ่ายเงินชดเชย ส่วนต่างระหว่างราคาเป้าหมายกับราคาตลาดอ้างอิงให้แก่เกษตรกร ทุก 30 วัน
ขณะที่งบประมาณและแหล่งงบประมาณ มีวงเงิน 3,133.17 ล้านบาท ซึ่งธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะสํารองจ่ายจากแหล่งเงินทุนของ ธ.ก.ส. และขอรับจัดสรรงบฯ ประจำปี เพื่อให้รัฐบาลชําระคืนตามที่เกิดขึ้นจริง แบ่งเป็น วงเงินชดเชยส่วนต่างรายได้ 3,075 ล้านบาท และวงเงินบริหารจัดการของ ธ.ก.ส. 58.17 ล้านบาท
ทั้งนี้มีระยะเวลาดำเนินการ ระยะเวลาการจ่ายเงิน ตั้งแต่เดือนกันยายน 2565 - สิงหาคม 2566 โดยระยะเวลาโครงการเดือนกันยายน 2565
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นชอบโครงการผลักดันการส่งออกน้ำมันปาล์มเพื่อลดผลผลิตส่วนเกิน ปี 2566 เพื่อลดปริมาณน้ำมันปาล์มส่วนเกินในประเทศให้เข้าสู่ระดับสมดุล และยกระดับราคาปาล์มทะลายที่เกษตรกรขายให้สูงขึ้น
สำหรับการดำเนินโครงการ จะสนับสนุนค่าบริหารจัดการการส่งออกเฉพาะปาล์มน้ำมันดิบ 150,000 ตัน เช่น ค่าขนส่ง ค่าคลังจัดเก็บ และค่าปรับปรุง โดยมีเงื่อนไขการสนับสนุนค่าบริหารจัดการส่งออก เมื่อระดับสต็อก น้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่า 300,000 ตัน และราคาน้ำมันปาล์มดิบในประเทศสูงกว่าราคาตลาดโลก
ทั้งนี้ เพื่อให้การบริหาร จัดการมีความยืดหยุ่นและทันต่อเหตุการณ์ เห็นควรกําหนดให้ เงื่อนไขระดับสต็อกน้ำมันปาล์มดิบขั้นต่ำไว้ที่ 250,000 ตัน และให้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) เป็นผู้มีอำนาจในการพิจารณา
ส่วนงบประมาณและแหล่งงบประมาณ 309 ล้านบาท (งบกลางฯ) แบ่งเป็น ค่าบริหารจัดการให้แก่ผู้ส่งออกตามโครงการ ปริมาณ 150,000 ตัน อัตรากิโลกรัมละ 2 บาท รวมเป็น 300 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการดําเนินงานของส่วนราชการ 9 ล้านบาท (ไม่เกิน 3% ของวงเงินดำเนินการ) โดยมีระยะเวลาส่งออกตั้งแต่ได้รับการอนุมัติ-กันยายน 2566 โดยระยะเวลาโครงการ ตั้งแต่ได้รับการอนุมัติ-ธันวาคม 2566
อย่างไรก็ตามในการดำเนินโครงการทั้งหมดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามระเบียบสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าด้วยการใช้ทรัพยากรของรัฐหรือบุคลากรของรัฐเพื่อกระทำการใดซึ่งจะมีผลต่อการเลือกตั้ง พ.ศ. 2563 รวมถึงพิจารณากรอบวงเงินงบฯ ตามความจําเป็นและเหมาะสม ตาม ม. 28 แห่ง พ.ร.บ. วินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ด้วย