นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้ติดตามสถานการณ์การส่งออกสินค้า พบว่า ตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มูลค่าตลาดสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลก สูงถึง 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ และคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น เฉลี่ย 5% ต่อปี มีมูลค่าถึง 1.7 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ภายในปี 2572 โดยมีปัจจัยหนุนจากจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งผู้บริโภคให้ความสำคัญและดูแลโภชนาการของสัตว์เลี้ยง ซึ่งถือเป็นโอกาสทองของผู้ประกอบการไทยที่จะใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรี (FTA) สร้างแต้มต่อทางการแข่งขัน เพื่อขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศ
ทั้งนี้ผู้ประกอบการไทยสามารถใช้ประโยชน์จาก FTA ที่ไทยมีกับคู่ค้า 14 ฉบับกับ 18 ประเทศ เพื่อเป็นแต้มต่อในการแข่งขันจากการปลดล็อคกำแพงภาษีศุลกากร โดยคู่ค้า FTA 15 ประเทศ ได้แก่ อาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง ไม่เก็บภาษีนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยทุกรายการแล้ว
ส่วนคู่ค้า FTA อีก 3 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ยังคงเก็บภาษีนำเข้าสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงบางรายการ อาทิ สินค้าอาหารเสริมของสัตว์เลี้ยง ญี่ปุ่น เก็บภาษีอัตรา 12.8% และเกาหลีใต้ เก็บภาษีอัตรา 40.4% ส่วนอินเดีย เก็บภาษีสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ที่ไม่ใช่สุนัขและแมว อัตรา 30% นอกจากนี้ ภายใต้ความตกลง RCEP เกาหลีใต้จะทยอยลดภาษีนำเข้าเพิ่มเติมให้ไทย ในสินค้าอาหารเสริมของสัตว์เลี้ยงจนเหลือศูนย์ในปี 2579
โดยในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา (2556-2565) การส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยไทยส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงสู่ตลาดโลก เฉลี่ยปีละ 1,697 ล้านดอลลาร์สหรัฐ มีอัตราการเติบโต 14% ต่อปี สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยงประเภทสุนัขและแมว เฉลี่ยปีละ 1,389 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 17% ต่อปี และสินค้าอาหารสัตว์อื่นๆ เฉลี่ยปีละ 308 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโต 5% ต่อปี ตลาดส่งออกที่น่าจับตามอง อาทิ จีน ขยายตัว 177% ต่อปี อินเดีย ขยายตัว 39% ต่อปี สหรัฐอเมริกา ขยายตัว 33% ต่อปี อาเซียน ขยายตัว 13% ต่อปี ออสเตรเลีย ขยายตัว 14% ต่อปี เกาหลีใต้ ขยายตัว 25% ต่อปี และสหภาพยุโรป ขยายตัว 15% ต่อปี
ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยครองแชมป์ผู้ส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับ 1 ของอาเซียน และเป็นอันดับ 4 ของโลก รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐอเมริกา และจีน โดยในช่วง 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย. 2566) ไทยส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไปตลาดโลก มูลค่า 750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยส่งออกไปตลาดคู่ค้า FTA มูลค่า 432 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วน 58% ของการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมด ตลาดที่ขยายตัวต่อเนื่อง อาทิ ฟิลิปปินส์ ขยายตัว 12% กัมพูชา ขยายตัว 56% เมียนมา ขยายตัว 8% และเปรู ขยายตัว 64%
“ในช่วงครึ่งปีหลัง คาดว่าการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยจะขยายตัวมากขึ้น จึงถือเป็นโอกาสของผู้ประกอบการไทยที่จะใช้ประโยชน์จาก FTA ขยายการส่งออก รวมทั้งควรสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า โดยเฉพาะการขายกลุ่มสินค้าพรีเมียม เพื่อเจาะตลาดเจ้าของสัตว์เลี้ยงที่ใส่ใจสุขภาพและคุณภาพชีวิตของสัตว์ และให้ความสำคัญกับการรักษามาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับด้านสุขอนามัยของสากล มีกระบวนการผลิตที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งจะช่วยดึงดูดใจผู้บริโภคและผู้นำเข้าในต่างประเทศได้มากขึ้น”