นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน สำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ ทำงานร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด ในการตรวจสอบ ติดตาม และเกาะติดการซื้อขายผลไม้ภาคใต้ที่กำลังออกสู่ตลาด หลังจากได้รับรายงานเริ่มมีสัญญาณว่าผู้ประกอบการและล้งพยายามที่จะร่วมมือกันหยุดรับซื้อ และกดราคารับซื้อผลไม้จากเกษตรกร ทั้งมังคุดและทุเรียน โดยหากตรวจสอบพบให้ดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด เพื่อช่วยดูแลเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายผลผลิต
ทั้งนี้ หากมีการจำกัดการรับซื้อ หรือร่วมกันปฏิเสธการรับซื้อ ที่เป็นการผูกขาดและลดการแข่งขัน จะมีความผิดตามพ.ร.บ.การแข่งขันทางการค้า พ.ศ.2560 มาตรา 72 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกินร้อยละ 10 ของรายได้ในปีที่กระทำความผิด และมีความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 มาตรา 29 กรณีทำให้เกิดความปั่นป่วนด้านราคา มีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ส่วนสถานการณ์ราคามังคุดภาคใต้ขณะนี้ ถือว่าราคาทรงตัวอยู่ในระดับสูง โดยเกรดส่งออก ราคาอยู่ที่ 74-98 บาท/กิโลกรัม (กก.) เพิ่มจากปี 2565 ที่ 37 บาท/กก. เกรดคละ 31-39 บาท/กก. เพิ่มจากปี 2565 ที่ 25 บาท/กก. และทุเรียน ที่ผลผลิตเพิ่งออกสู่ตลาด ราคาเกรดส่งออก อยู่ที่ 130-135 บาท/กก. เพิ่มจากปี 2565 ที่ 116 บาท/กก. และเกรดคละ 85-90 บาท/กก. เพิ่มจากปี 2565 ที่ 64 บาท/กก.
ด้านนายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมฯ ได้ร่วมมือกับนายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดชุมพร และสำนักงานพาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ ลงพื้นที่ตรวจสอบ ติดตามการซื้อขายมังคุดและทุเรียนอย่างใกล้ชิด และยังได้ตั้งชุดเฉพาะกิจเข้าไปตรวจสอบ และกำกับดูแลการรับซื้อขาย ไม่ให้มีการรับซื้อโดยเอาเปรียบเกษตรกร เพื่อดูแลชาวเกษตรกรให้ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อขายผลผลิตแล้ว
สำหรับการช่วยหาตลาดรองรับผลผลิตทุเรียนที่กำลังออกสู่ตลาด ได้ร่วมมือกับตลาดมรกต ซึ่งเป็นตลาดในความส่งเสริมของกรมฯ และเป็นตลาดรวบรวมทุเรียนใหญ่ที่สุดในโลก เปิดจุดรับซื้อทุเรียนให้กับพี่น้องชาวสวน ณ ตลาดมรกต ซึ่งตลาดมีความยินดีให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ โดยมีศักยภาพในการรับผลผลิตทุเรียนขั้นต่ำ 3,000 ตันต่อวัน รวมทั้งประสานล้งในพื้นที่ให้เข้าไปรับซื้อด้วย ซึ่งความร่วมมือนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้เกษตรกรมีความมั่นใจว่ามีตลาดรองรับผลผลิต และยังจะสามารถขายผลผลิตได้ราคาดี และเป็นธรรม