นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย – ศรีลังกา รอบที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นในรูปแบบไฮบริด ทั้งการประชุม ณ กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ช่งเดือนมิถุนายน ว่ามีความคืบหน้าเกินครึ่งทาง และคาดว่าจะสามารถหาข้อสรุปได้ภายในช่วงต้นปี 2567 ตามที่ทั้งสองฝ่ายตั้งเป้าไว้
ซึ่งการประชุมคณะกรรมการเจรจาการค้า และคณะทำงานที่เกี่ยวข้อง 6 คณะ ได้แก่ กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า อุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้า พิธีการทางศุลกากรและการอำนวยความสะดวกทางการค้า
การค้าบริการ การลงทุน และ กฎหมาย ซึ่งได้วางแผนจัดการประชุมเจรจาอีก 4 รอบ สำหรับในปีนี้จะจัดขึ้น 3 รอบ ในช่วงเดือนสิงหาคม ตุลาคม และธันวาคม และในปี 2567 จะจัดขึ้น 1 รอบ ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อเดินหน้าสรุปผลการเจรจาให้ได้ตามเป้าหมาย
นอกจากนี้ คณะผู้แทนไทยได้มีโอกาสพบหารือกับหอการค้าศรีลังกา (Ceylon Chamber of Commerce) เพื่อให้ข้อมูลเกี่ยวกับภาพรวมสถานการณ์เศรษฐกิจไทย สถานะการเจรจาจัดทำ FTA ของไทย รวมทั้งประโยชน์ของการจัดทำ FTA ไทย – ศรีลังกา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจกับภาคเอกชนศรีลังกา ซึ่งพบว่า ภาคเอกชนศรีลังกาให้ความสนใจอย่างมากและเล็งเห็นถึงประโยชน์จากการจัดทำ FTA ไทย – ศรีลังกา
โดยผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่มาจากภาคธุรกิจที่มีความสนใจเข้าไปลงทุนในไทย และผู้ประกอบธุรกิจนำเข้าและส่งออกของศรีลังกาที่ต้องการให้ FTA เป็นกลไกช่วยให้การค้าสองฝ่ายขยายตัวเพิ่มมากขึ้น รวมถึงอำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุนระหว่างกัน
ทั้งนี้ ในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับศรีลังกามีมูลค่า 358.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า 271.21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากศรีลังกา มูลค่า 87 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค. – พ.ค. 2566) การค้ารวมสองฝ่ายมีมูลค่า 146.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยไทยส่งออกไปศรีลังกา มูลค่า 99.59 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากศรีลังกา มูลค่า 46.72 ล้านเหรียญสหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ยางพารา ผ้าผืน อัญมณีและเครื่องประดับ เม็ดพลาสติก และเครื่องจักรกลและส่วนประกอบ ส่วนสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องเพชรพลอย และอัญมณี เครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ เสื้อผ้าสำเร็จรูป พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช และเคมีภัณฑ์