นายตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังร่วมประชุมกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ และสภาเกษตรกรแห่งชาติ กรณีการนำเข้าสุกรโดยผิดกฎหมาย ณ สำนักงานศุลกากรท่าเรือแหลมฉบัง และร่วมเป็นสักขีพยานในการเปิดตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งสุกรนำเข้าที่กรมศุลกากรตรวจยึดไว้
ว่าแม้การป้องกันและปราบปรามการนำเข้าสุกรผิดกฎหมายจะมิได้เป็นภารกิจของกรมการค้าภายในโดยตรง แต่กรมฯ ก็เห็นถึงความสำคัญและให้ความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด
เนื่องจากเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อวงจรการผลิต โดยเฉพาะการเลี้ยงและการจำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร อีกทั้งยังยากที่จะควบคุมคุณภาพความปลอดภัยของเนื้อสุกรที่ลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายให้แก่ผู้บริโภค
ทั้งนี้แนวทางช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงว่า เนื่องจากปัจจุบันราคาสินค้าเกษตรสำคัญส่วนใหญ่มีราคาสูง ทำให้เกษตรกรผู้เพาะปลูกมีรายได้ที่ดีในการขายผลผลิต ขณะเดียวกันเมื่อสินค้าที่เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง มีราคาสูงก็ส่งผลให้ราคาอาหารสัตว์ยังคงทรงตัวอยู่ในระดับที่สูง ซึ่งกรมการค้าภายในได้ติดตามสถานการณ์และกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
นอกจากนี้ได้หารือกับกรมปศุสัตว์ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ และสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ว่าจะร่วมกันสนับสนุนให้มีการเชื่อมโยงอาหารสัตว์จากโรงงานผลิตไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยง เพื่อเพิ่มทางเลือกให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงรายกลางและรายย่อยให้สามารถซื้ออาหารสัตว์ได้ในราคาหน้าโรงงาน โดยภาครัฐจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการส่วนหนึ่ง เชื่อว่าจะเป็นมาตรการช่วยเหลือตรงไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงที่เห็นผลได้โดยเร็ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียดหลักเกณฑ์การสนับสนุนก่อนที่จะประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องเกษตรกรผู้เลี้ยงได้รับทราบและเข้าร่วมโครงการต่อไป