ก่อสร้าง-อสังหา-ร้านอาหาร 6เดือนแห่จดทะเบียนใหม่พุ่ง4.7หมื่นราย

20 ก.ค. 2566 | 03:15 น.
อัปเดตล่าสุด :20 ก.ค. 2566 | 03:21 น.

 เศรษฐกิจฟื้นคนแห่จดทะเบียนธุรกิจยอดธุรกิจจดทะเบียนใหม่ 6 เดือนแรกปีนี้ กว่า 47,286 ราย มูลค่ากว่า 428,000 ล้านบาท บวก 53% ธุรกิจตั้งใหม่ 3 อันดับแรก ก่อสร้าง-อสังหา-ร้านอาหาร

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงผลการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนมิถุนายน 2566 และครึ่งปีแรก 2566 (ม.ค.-มิ.ย.66) โดยมีรายละเอียด ดังนี้  ธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนมิถุนายน 2566 มีจำนวน 7,626 ราย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 39,739.72 ล้านบาทและประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 598 ราย คิดเป็น 8% ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 591 ราย คิดเป็น 7% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 338 ราย คิดเป็น 4% ตามลำดับ

 

ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน  ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,960 ราย ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 2,517 ราย และ ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 124 ราย และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 25 ราย คิดเป็น 0.33%     

ก่อสร้าง-อสังหา-ร้านอาหาร 6เดือนแห่จดทะเบียนใหม่พุ่ง4.7หมื่นราย

 และธุรกิจจัดตั้งใหม่ครึ่งปี 2566 (ม.ค.-มิ.ย.66) มีจำนวน 47,286 ราย เทียบกับครึ่งปี 2565 จำนวน 40,301 ราย เพิ่มขึ้น 6,985 ราย คิดเป็น 17.33% โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 3,601 ราย     ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 3,499 ราย และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหารจำนวน 2,197 ราย คิดเป็น 5% ตามลำดับ

ก่อสร้าง-อสังหา-ร้านอาหาร 6เดือนแห่จดทะเบียนใหม่พุ่ง4.7หมื่นราย

ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนจำนวนการจดทะเบียนธุรกิจให้เติบโตสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมาส่วนหนึ่งมาจากปัจจัยในหลายๆ ด้าน เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศมากขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในครึ่งปีแรก 2566 มีจำนวนการจดจัดตั้งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 81.20% มีสัดส่วนคิดเป็น 7.99% ของจำนวนธุรกิจที่จัดตั้งทั้งหมดในครึ่งปีแรก

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจน่าจับตามองที่เติบโตถึง 2.5 เท่า จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ครึ่งปีแรก 2565) ได้แก่ ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศเติบโต 2.57 เท่า (เพิ่มขึ้น 121 ราย) คาดว่าเป็นผลมาจากธนาคารกลางในหลายประเทศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลต่อนโยบายทางการเงินและค่าเงินของแต่ละประเทศ ประกอบกับการเดินทางท่องเที่ยวกลับมาคึกคักทำให้ความต้องการแลกเปลี่ยนเงินตราเพิ่มขึ้น และธุรกิจขายส่งข้าวเปลือกและธัญพืชเติบโต 2.54 เท่า (เพิ่มขึ้น 112 ราย) คาดว่าเป็นผลมาจากนโยบาย BCG Model ของรัฐบาลที่ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิตข้าวรักษ์โลก โดยจะมีการสนับสนุนปัจจัยการผลิตและเครื่องจักรกลการเกษตรจากกรมการข้าว  อย่างไรก็ตามกระทรวงพาณิชย์คาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 36,000 - 43,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 83,000 - 90,000 ราย