ท่องเที่ยวโตดันยอดจดทะเบียน4เดือนพุ่งสุดสุดในรอบ10ปี

12 พ.ค. 2566 | 02:54 น.
อัปเดตล่าสุด :12 พ.ค. 2566 | 03:00 น.

ท่องเที่ยวฟื้น ดันยอดจดทะเบียนธุรกิจ เม.ย. พุ่ง 6,041 ราย ส่งผลให้ 4 เดือนแรกคนแก่ตั้งธุรกิจใหม่ สูงสุดในรอบ 10 ปี ทะลุ 32,223 ราย

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้การธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนเมษายน 2566มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศ จำนวน 6,041 ราย มูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 20,897.87 ล้านบาท

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์

โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 434 ราย คิดเป็น 7.19% รองลงมา คือ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 405 ราย คิดเป็น 6.70% และอันดับ 3 คือ ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 262 ราย คิดเป็น 4.34%

 

โดยแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 3,971 ราย คิดเป็น 65.73% รองลงมาช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 1,985 ราย คิดเป็น 32.86% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 67 ราย คิดเป็น 1.11% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 18 ราย คิดเป็น 0.30%

ท่องเที่ยวโตดันยอดจดทะเบียน4เดือนพุ่งสุดสุดในรอบ10ปี

สำหรับธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนเมษายน 2566  มีจำนวน 936 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 5,177.20 ล้านบาท ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 115 ราย คิดเป็น 12.29%  ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 53 ราย คิดเป็น 5.66% และธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 23 ราย คิดเป็น 2.46%

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 631 ราย คิดเป็น 67.42% ช่วงทุนมากกว่า 1- 5 ล้านบาท จำนวน 268 ราย คิดเป็น 28.63% ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 32 ราย คิดเป็น 3.42% และช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 5 ราย คิดเป็น 0.53%

ท่องเที่ยวโตดันยอดจดทะเบียน4เดือนพุ่งสุดสุดในรอบ10ปี

สำหรับธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ 30 เมษายน 2566 จำนวน 871,041 ราย มูลค่าทุน 21.23 ล้านล้านบาท จำแนกเป็นบริษัทจำกัด จำนวน 667,100 ราย คิดเป็น 76.59% ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 202,544 ราย คิดเป็น 23.25% และบริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,397 ราย คิดเป็น 0.16%

ขณะทีภาพรวมการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 มีจำนวนการจัดตั้งธุรกิจสูงสุดในรอบ 10 ปี (พ.ศ. 2557 - 2566) เป็นจำนวนมากถึง 32,223 ราย

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้

ด้านนายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระบุเพิ่มเติมว่า การจัดตั้งธุรกิจใหม่ 4 เดือนแรก (ม.ค.-เม.ย) เพิ่มขึ้นถึง 16.23% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. - เม.ย.65) แม้ว่า การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเดือนเมษายน 2566 มีการชะลอตัวลงไปบ้าง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากจำนวนวันทำการราชการที่น้อยกว่าเดือนก่อน และเป็นไปตามแนวโน้มปกติของการจดทะเบียนที่จะมีจำนวนจัดตั้งลดลงในเดือนเมษายน

 นอกจากนี้ กลุ่มธุรกิจหนึ่งที่ส่งผลต่อการเติบโตของการจัดตั้งธุรกิจในช่วง 4 เดือนแรกของปี 2566 คือ ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว โดยมีอัตราการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นถึง 1 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (ม.ค. - เม.ย.65) โดยธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวและมีการจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้น ได้แก่ ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เพิ่มขึ้น 5.6 เท่า ธุรกิจตัวแทนการเดินทาง เพิ่มขึ้น 3.7 เท่า ธุรกิจจัดนำเที่ยว เพิ่มขึ้น 2.7 เท่า ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร เพิ่มขึ้น 68% และธุรกิจโรงแรม รีสอร์ท และห้องชุด เพิ่มขึ้น 41% ซึ่งการเติบโตดังกล่าว

ท่องเที่ยวโตดันยอดจดทะเบียน4เดือนพุ่งสุดสุดในรอบ10ปี

“การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ และสถานการณ์การท่องเที่ยวที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนผ่านดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค และดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยดังกล่าวข้างต้น กรมพัฒนาธุรกิจการค้าคาดการณ์การจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 42,000 - 45,000 ราย และตลอดทั้งปี 2566 อยู่ที่ประมาณ 75,000 - 78,000 ราย”