จากกรณีที่ทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.)ใช้งบประมาณจำนวน 40 ล้านบาท สำหรับการต่อแพขนานยนต์ลำใหม่ ที่ชื่อว่า “อบจ.สงขลา เฟอร์รี่” เริ่มตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยระยะเวลาในการต่อแพขนานยนต์ลำนี้ 1 ปี
ความคืบหน้าล่าสุด นายไพเจน มากสุวรรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา (อบจ.) ได้เดินทางไปดูความคืบหน้าโครงการต่อสร้างแพขนานยนต์ “อบจ.สงขลา เฟอร์รี่” ที่ “อู่ต่อเรือ มิทส์ ดิสิชั่น” ริมแม่นํ้า
ท่าจีน จังหวัดสมุทรสาคร เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งจะครบสัญญาในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ มีความก้าวหน้าประมาณ 95 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่าจะแล้วเสร็จตามแผนในเดือนสิงหาคมนี้
นายไพเจน กล่าวว่า วันที่ 12 สิงหาคม ทางอู่ต่อเรือ มิทส์ ดิสิชั่น จะทำการลากจูงแพขนานยนต์ “อบจ.สงขลา เฟอร์รี่” ไปที่ท่าแพขนานยนต์ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา ที่จังหวัดสงขลา จะใช้เวลาลากจาก อู่ต่อเรือ มิทส์ ดิสิชั่น ประมาณ 5-6 วัน
คาดว่าจะไม่เกินวันที่ 20 สิงหาคม 2566 แพขนานยนต์ลำใหม่ “อบจ.สงขลา เฟอร์รี่” จะเดินทางไปถึงท่าแพขนานยนต์ ที่จังหวัดสงขลา เมื่อไปถึงแล้วจะมีการทดสอบการใช้งานจริงด้วยการรับส่งผู้โดยสาร ทดสอบระบบต่างๆ ของแพ เพื่อเตรียมให้บริการแก่พี่น้องประชาชนที่เดินทางระหว่างเทศบาลเมืองสิงหนครกับเทศบาลนครสงขลาอย่างเป็นทางการ
ความพิเศษของแพขนาน ยนต์ลำใหม่ “อบจ.สงขลา เฟอร์รี่” เป็นแพขนานยนต์ที่ขนาดใหญ่กว่าแพขนานยนต์ที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน สามารถรองรับการให้บริการประชาชนและยานพาหนะได้เพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันทางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลามีแพขนานยนต์ให้บริการอยู่ 5 ลำ
ประกอบด้วย อบจ. 1 อบจ.2 อบจ.9 อบจ.10 และ อบจ.11 แต่อบจ.1กับอบจ.2 ระยะเวลาการใช้งานที่ยาวนานกว่า 30 ปี ในขณะที่ อบจ.9 กับ อบจ.10 ประมาณเกือบ 10 ปี ทำให้ประสบปัญหาในการให้บริการประชาชน เนื่องจากมีปัญหาเครื่องยนต์ขัดข้อง ทำให้ต้องซ่อมบำรุงรักษาตามระเบียบของกรมเจ้าท่า
เมื่อได้แพขนานยนต์ลำใหม่ “อบจ.สงขลา เฟอร์รี่” เข้ามาเสริม จะทำให้การบริการประชาชนได้รับความสะดวกมากยิ่งขึ้น และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่ต้องเดินทางข้ามสะพานติณสูลานนท์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเดินทางและค่าใช้จ่ายค่านํ้ามันเพิ่มขึ้น
นายไพเจน กล่าวว่า นอกจากทางอบจ.สงขลา จะมีการต่อแพขนานยนต์ลำใหม่ “อบจ.สงขลา เฟอรี่” มาเสริมในการบริการประชาชนแล้ว ทาง อบจ.ยังมีการสร้างท่าเทียบแพขนานยนต์แห่งใหม่เพิ่ม ซึ่งจะแล้วเสร็จพร้อมกับการให้บริการแพขนานยนต์ลำใหม่ที่ชื่อ “อบจ.สงขลา เฟอรี่”
การมีท่าแพขนานยนต์ใหม่เพิ่มอีก 1 ท่า จะทำให้รอบการวิ่งของแพขนานยนต์ทำได้เพิ่มขึ้น และสอดคล้องกับจำนวนแพขนานยนต์ที่เพิ่มขึ้นอีก 1 ลำ รวมเป็น 6 ลำ ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาในการเทียบท่าเหมือนที่ผ่านมา สามารถเข้าเทียบท่าได้โดยไม่ต้องเสียเวลารอ ก็จะยิ่งให้พี่น้องประชาชนเดินทางได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
"ปัจจุบันการใช้บริการแพขนานยนต์ข้ามฟากระหว่างเทศบาลเมืองสิงหนครกับเทศบาลนครสงขลามีรถยนต์ใช้บริการประมาณ 2,000 กว่าคันต่อวัน รถจักรยานยนต์ประมาณ 2,000 กว่าคันต่อวัน รวมสองฝั่งทั้งไปและกลับประมาณเกือบ 10,000 คันต่อวัน" นายก อบจ.สงขลา กล่าว
สมชาย สามารถ : รายงาน