นายดวงอาทิตย์ นิธิอุทัย รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการเจรจายกระดับความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA-TNC) ครั้งที่ 5 ระหว่างวันที่ 31 ก.ค. - 3 ส.ค. ที่ผ่านมา ณ กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย เพื่อเจรจาปรับปรุงความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าของอาเซียน (ATIGA) ให้ทันสมัย ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางการค้า และตอบสนองประเด็นการค้าดั้งเดิมและประเด็นการค้าใหม่ โดยที่ประชุมครั้งนี้มีความคืบหน้ามาก และได้ตั้งเป้าหมายจะสรุปผลการเจรจาให้ได้ในปี 2567
โดย การประชุมครั้งนี้ ไทยได้ผลักดันให้ประเทศอาเซียนที่ยังมีการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าที่นำเข้ามาจากประเทศอาเซียนด้วยกันลดเลิกภาษีที่เก็บอยู่ โดยเฉพาะในสินค้าเกษตรที่เป็นสินค้าส่งออกสำคัญของไทย เช่น เนื้อไก่สดและแช่เย็น ข้าว และผลไม้
ทั้งนี้ นับตั้งแต่ความตกลง ATIGA มีผลบังคับใช้เมื่อปี 2553 ไทยมีการส่งออกไปยังอาเซียนเพิ่มขึ้นมาก เนื่องจากอาเซียนได้ยกเลิกการเก็บภาษีศุลกากรกับสินค้าส่วนใหญ่แล้ว (ประมาณร้อยละ 98.64 ของสินค้าที่ค้าขายกัน) ทำให้เมื่อเทียบมูลค่าการส่งออกของไทยไปอาเซียน ในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมา (ระหว่างปี 2553 – 2565) พบว่าขยายตัวกว่า 63%
ทั้งนี้ อาเซียนถือเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย สำหรับในปี 2565 การค้าระหว่างไทยและอาเซียนมีมูลค่า 124,890.01 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 21.2% ของมูลค่าการค้ารวมของไทยกับโลก โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 71,890.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 52,999.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และในช่วงครึ่งปีแรก (ม.ค – มิ.ย. 2566) การค้าระหว่างไทยและอาเซียน มีมูลค่า 59,141.47 ล้านดอลลาร์
โดยไทยส่งออกไปอาเซียน มูลค่า 33,601.15 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และนำเข้าจากอาเซียน มูลค่า 25,540.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกของไทยไปอาเซียน อาทิ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ น้ำมันสำเร็จรูป น้ำตาลทราย อัญมณีและเครื่องประดับ เคมีภัณฑ์ และสินค้านำเข้าจากอาเซียน อาทิ น้ำมันดิบ ก๊าซธรรมชาติ แผงวงจรไฟฟ้า เคมีภัณฑ์ และเครื่องจักรไฟฟ้าและส่วนประกอบ