ส่งออก 6 เดือน ไทยติดลบน้อยสุดในอาเซียน ลุ้นอาหาร-อิเล็กฯ ดันทั้งปีโต1%

19 ส.ค. 2566 | 03:00 น.

ส่งออกอาเซียนแข่งพลิกบวก หลัง 6 เดือนแรก ยังติดลบถ้วนหน้า สรท.ชี้ไทยยังดีสุดติดลบแค่ 5.4% ลุ้นเดือนที่เหลือทำได้เฉลี่ย 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์ ดันทั้งปีโตได้ 1% ระบุ 3 กลุ่มสินค้าเด่น “รถยนต์-ข้าว-นํ้าตาล”ยังขยายตัวสวน ศก.โลก ลุ้นอาหารสำเร็จรูป-ชิ้นส่วนอิเล็กฯ ตัวช่วย

ส่งออกไทยยังติดลบต่อเนื่อง 9 เดือนติดต่อกัน (ต.ค.2565-มิ.ย.2566) โดยล่าสุดช่วง 6 เดือนแรกปีนี้ ส่งออกแล้วมูลค่า 141,170.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ติดลบ 5.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.)คาดการส่งออกไทยปี 2566 จะอยู่ที่ -2.0% ถึง 0.0% ผลกระทบหลักจากเศรษฐกิจและการค้าโลกที่ชะลอตัว

นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย(สรท.) เผยกับ “ฐานเศรษฐกิจ” ว่า ตัวเลขการส่งออกของไทยช่วง 6 เดือนแรกปี 2566 เทียบกับคู่แข่งขันจากอาเซียนยังติดลบน้อยกว่า โดยไทยติดลบ 5.4% ขณะที่เวียดนาม -15% สิงคโปร์ -10% อินโดนีเซีย -9% และมาเลเซีย -8%

ชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย

สรท.คาดการณ์ส่งออกไทยปีนี้ตํ่าสุดจะติดลบ 0.5% และดีสุดจะขยายตัวเป็นบวก 1% บนสมมุติฐานการส่งออกในเดือนที่เหลือของปีนี้ (ก.ค.-ธ.ค.) ทำได้เฉลี่ยเดือนละไม่ตํ่ากว่า 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะทำให้ส่งออกไทยทั้งปีทำได้ที่  0% แต่หากมีบางเดือนทำได้สูงกว่านี้ตัวเลขอาจโตได้ 1% แต่หากตํ่ากว่า 2.43 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐต่อเดือนจะติดลบ 0.5%

ทั้งนี้ใน 3 กลุ่มสินค้าที่ตัวเลขการส่งออกยังดีและทั้งปีนี้ยังขยายตัวเป็นบวกแน่นอน ได้แก่ รถยนต์ ข้าว และนํ้าตาล โดยในส่วนของข้าวได้รับอานิสงส์จากอินเดียชะลอส่งออกข้าวขาว เพื่อให้ราคาในประเทศมีความหมาะสมและมีข้าวเพียงพอบริโภคในประเทศ จะทำให้มีคำสั่งซื้อมาที่ไทยมากขึ้น

ส่งออก 6 เดือน ไทยติดลบน้อยสุดในอาเซียน ลุ้นอาหาร-อิเล็กฯ ดันทั้งปีโต1%

ส่วนสินค้าที่ลุ้นตัวเลขปรับตัวดีขึ้นในเดือนที่เหลือของปีนี้คือ อาหารสำเร็จรูป ที่เวลานี้ปรากฎการณ์เอลนีโญที่ทำให้เกิดภัยแล้งในหลายพื้นที่ของโลกจะกระทบต่อความมั่นคงด้านอาหารของหลายประเทศ ทำให้มีความต้องการนำเข้าสินค้าอาหารมากขึ้น และในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ เฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มแผงวงจรไฟฟ้าที่กลับมาขยายตัวได้ดี ส่วนสินค้าที่น่าห่วงคือ เม็ดพลาสติกและเคมีภัณฑ์ จากผลกระทบตลาดใหญ่คือจีนได้ลงทุนทำนิคมอุตสาหกรรมปิโตรเคมีขนาดใหญ่ ที่เป็นต้นนํ้าของเม็ดพลาสติกและเคมีภัณฑ์ ทำให้มีความต้องการนำเข้าลดลง