พาณิชย์ เปิดฟังความเห็นภาคธุรกิจ-นักบัญชีก่อนปรับปรุงประกาศ2ฉบับ

06 ก.ย. 2566 | 06:34 น.
อัปเดตล่าสุด :06 ก.ย. 2566 | 06:40 น.

กรมพัฒน์ฯ เปิดรับฟังความเห็นจากภาคธุรกิจ และนักบัญชี ก่อนปรับปรุงประกาศกรม 2 ฉบับ ภายใต้กฎหมายบัญชี ก่อนบังคับใช้ต่อไป

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เผยว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีนิติบุคคลกว่า 886,796 ราย ซึ่งทั้งหมดจะต้องจัดทำบัญชีให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 เป็นกฎหมายหลักที่กำหนดรายละเอียดในการจัดทำบัญชีของธุรกิจ ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมายดังกล่าวได้กำหนดหน้าที่และความรับผิดชอบของบุคคลที่เกี่ยวข้องในการจัดทำบัญชีของธุรกิจไว้ 2 ฝ่าย คือ ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชี

นายทศพล ทังสุบุตร อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ได้แก่ ห้างหุ้นส่วน    จดทะเบียน บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร และ ผู้ทำบัญชี ซึ่งมีหน้าที่จัดทำบัญชีของธุรกิจ ปัจจุบันมีจำนวนรวม 70,243 คน  การแบ่งแยกหน้าที่และความรับผิดชอบของทั้ง 2 ฝ่าย เพื่อให้การจัดทำบัญชีของธุรกิจมีความถูกต้อง ครบถ้วน ส่งผลให้ข้อมูลในงบการเงินมีความน่าเชื่อถือ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ประกอบการตัดสินใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

 

ที่ผ่านมาได้ออกประกาศกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเรื่องต่างๆ เพื่อให้ผู้มีหน้าที่จัดทำบัญชีและผู้ทำบัญชีปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งบางฉบับใช้มาเป็นระยะเวลานานแล้ว หรือมีข้อกำหนดที่อาจไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์ปัจจุบัน กรมจึงได้มีการปรับปรุงประกาศกรม จำนวน 2 ฉบับ  ได้แก่ เรื่อง กำหนดรายการย่อที่ต้องมีในงบการเงิน ซึ่งประกาศฉบับเดิมใช้มาเป็นเวลา 12 ปีแล้ว จึงปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับการปรับปรุงมาตรฐานการรายงานทางการเงิน ของสภาวิชาชีพบัญชีฯ

และ เรื่อง กำหนดคุณสมบัติและเงื่อนไขของการเป็นผู้ทำบัญชี เพื่อมุ่งเน้นพัฒนาผู้ทำบัญชีให้มีคุณสมบัติเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับร่างประกาศทั้ง 2 ฉบับ ได้มีส่วนร่วมให้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการปรับปรุงประกาศดังกล่าว

นอกจากนี้ กรมยังได้เปิดรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะผ่านwww2.dbd.go.th/news/4897551321654489 จนถึงวันที่ 8 กันยายน 2566 หลังจากนั้น กรมฯ จะนำผลการรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ พร้อมรายละเอียดการแก้ไขประกาศฯ ดังกล่าว เผยแพร่ให้ทราบในโอกาสต่อไป