แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาลเปิดเผยว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (13 กันยายน 2566) สำนักงบประมาณ จะเสนอ ครม. พิจารณาปรับปรุงปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 และกรอบงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 ที่วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท
งบประมาณ 2567 วงเงิน 3.48 ล้านล้านบาท ที่จะเสนอให้ครม.พิจารณา มีการประมาณการรายได้รัฐบาลอยู่ที่ 2.787 ล้านล้านบาท และจะมีการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเป็น 6.93 แสนล้านบาท
งบประมาณ 2567 ที่ครม.จะเสนอให้อนุมัติครั้งนี้จะมีกรอบวงเงินเพิ่มจากเดิมที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 3.35 ล้านล้านบาท เป็น3.48 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 1.3 แสนล้านบาท โดยปรับประมาณการรายได้ใหม่จากเดิม 2.757 ล้านล้านบาท เป็น 2.787 ล้านล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นอีก 3 หมื่นล้านบาท ส่วนการกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้นจาก 5.93 แสนล้านบาท เป็น 6.93 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 1 แสนล้านบาท
สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณปี 2567 ที่เพิ่มขึ้นครั้งนี้ ส่วนหนึ่งต้องนำมาเพื่อให้หนี้ในโครงการประกันรายได้สินค้าเกษตรของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ขณะเดียวกันกระทรวงการคลังยังมีการขยายกรอบเพดานการใช้จ่ายตามมาตรา 28 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 จากเดิมกำหนดให้ก่อหนี้สูงสุดไม่เกิน 32% เพื่อให้รัฐบาลใหม่มีช่องว่างทางการคลังไปทำนโยบายต่าง ๆ เพื่อกระตุกเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวในทันที
อย่างไรก็ตามในช่วงรอยต่อรัฐบาล ซึ่งการจัดทำงบประมาณปี 2567 ยังไม่สามารถใช้ได้นั้น ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี ได้อนุมัติหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ไปพลางก่อน เป็นเวลา 8 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2567 โดยกำหนดวงเงินที่ส่วนราชการต่าง ๆ จะสามารถใช้จ่ายได้วงเงินไม่เกิน 1.8 ล้านล้านบาท