วันนี้ (8 กันยายน 2566) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ลงพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ อำเภออุบลรัตน์ จังหวัดขอนแก่น เพื่อติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ผลกระทบจากเอลนีโญ และการบริหารจัดการน้ำและปัญหาของเกษตรกร โดยยืนยันว่าในการประชุม ครม.นัดแรก จะหารือ มาตรการพักหนี้ แน่นอน
สำหรับการเดินทางลงพื้นที่เขื่อนอุบลรัตน์ ครั้งนี้ นายกฯ พร้อมคณะ ประกอบไปด้วย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี , นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม , นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม , ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นายไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายอนุชา นาคาสัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ , นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รวมไปถึง สส.ขอนแก่นและ สส.ภาคอีสาน พรรคเพื่อไทย
นายกฯ รับฟังปัญหาเกษตรกร
ทั้งนี้นายกรัฐมนตรีได้รับฟังบรรยายสรุปสถานการณ์น้ำ การบริหารจัดการน้ำและระบบชลประทานสำหรับเกษตรกรและพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จากนั้นได้รับฟังปัญหาโดยตรงจากประชาชนในพื้นที่ ซึ่งได้สะท้อนปัญหาภัยแล้งจากผลกระทบของเอลนีโญ และเมื่อฝนตกก็ไม่มีแหล่งน้ำสำหรับเก็บกักน้ำไว้ใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะในลำน้ำสาขา รวมไปถึงการต่อยอดชลประทานระบบท่อ
ส่วนปัญหาของเกษตรกรซึ่งสะสมมานานโดยเฉพาะชาวนาผู้ปลูกข้าว ยังมีปัญหาเรื่องพันธุ์ข้าว ที่ขาดแคลนและขาดการพัฒนามายาวนาน รวมถึงปัญหาของพี่น้องเกษตรกร ที่ประสบกับปัญหาราคาพืชผลตกต่ำ รายได้ของเกษตรกรรวมถึงเรี่องปัญหาหนี้สินที่รุมเร้ามานาน
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนสำหรับการสะท้อนปัญหาต่างๆ ซึ่งรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำอย่างเป็นระบบ ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลที่มาจากประชาชนให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการแก้ไขปัญหาเรื่องน้ำ เรามุ่งมั่นที่จะทำให้ไม่ท่วมไม่แล้งเพื่อพี่น้องเกษตรกร เราเชื่อว่าการลงทุนด้านการเกษตร การพัฒนาพื้นที่ชลประทาน เป็นเรื่องที่รัฐบาลที่มาจากประชาชนจะให้ความสำคัญมากที่สุด
ส่วนที่ยังเป็นห่วงขณะนี้เป็นเรื่องในระยะสั้นคือปัญหาภัยแล้ง ซึ่งได้หารือกับหน่วยงานต่างๆ รวมไปถึงกองทัพและกระทรวงมหาดไทย ที่จะมีการประสานงานกันเพื่อพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ ขุดลอกแหล่งน้ำต่างๆ เพื่อบรรเทาปัญหาในระยะสั้น จึงขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเราจะดูแลอย่างเต็มที่
เตรียมถกครม. คลอดมาตรการพักหนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำและรายได้ของเกษตรกร เป็นเรื่องสำคัญมากของรัฐบาล โดยรัฐบาลมีแนวนโยบายยกระดับรายได้สุทธิของเกษตกร ด้วยการเพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ทำให้รายได้สุทธิของเกษตรกรเพิ่มขึ้น ทั้งเรื่องการลดค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแลงและเพิ่มผลิตผลต่อไร่ พร้อมทั้งเปิดตลาดการค้าใหม่
โดยนายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในเรื่องการค้าโลก จะไปเปิดตลาดใหม่ๆ และหาแนวทางในการแก้ไขสนธิสัญญาต่างๆ
นอกจากนี้ในเรื่องของปัญหาหนี้สิน ที่พี่น้องเกษตรกรมีความทุกข์มากๆ ในการประชุม ครม. นัดแรก จะเอาเรื่องการพักหนี้เข้าสู่การพิจารณาของ ครม. เพื่อบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนจะได้มีกำลังใจในการหารายได้อย่างเต็มที่
จ่อคลอดลดราคาน้ำมัน-ไฟฟ้า
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในการประชุม ครม.นัดแรก จะมีมาตรการบรรเทาทุกข์พี่น้องประชาชนเรื่องราคาน้ำมันดีเซล กับไฟฟ้าอย่างแน่นอน นอกจากนี้จะมีการพิจารณาเรื่องเหมืองแร่โปแตส ซึ่งเป็นสารชั้นต้นในการทำปุ๋ย ซึ่งเรามีอยู่หลายแห่ง หากสามารถทำให้ทุกฝ่ายเห็นชอบร่วมกันได้จะมีมูลค่าทางเศรษฐกิจอย่างมากและจะทำให้ราคาปุ๋ยของเราถูกลง
“ปัญหาของประชาชนรัฐบาลชุดนี้ตระหนักเป็นอย่างดี ยืนยันว่าปัญหาของประชาชนเป็นปัญหาใหญ่ที่สุด และต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน รัฐบาลนี้ไม่มีเวลาฮันนีมูนครับ เดินหน้าเต็มตัวครับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว