นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงนโยบายและทิศทางการทำงานสำคัญของกระทรวงพาณิชย์ ภายหลังร่วมประชุมหารือกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ พาณิชย์จังหวัด และทูตพาณิชย์ทั่วโลก ว่า ได้เข้าทำงานอย่างเป็นทางการเป็นวันแรก ว่ารัฐบาลมีนโยบายหลักให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง และกำหนดให้เป็นเป้าสำคัญในการทำงานของทุกกระทรวง
รวมทั้งกระทรวงพาณิชย์ จึงได้มอบนโยบายการทำงานเน้นให้เกิดประโยชน์กับประชาชน โดยยึดหลักการสร้างสมดุลให้เกิดขึ้นทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนงาน ทั้งเกษตรกร ผู้บริโภค และผู้ประกอบการ
โดยการดูแลและลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีการลดภาระต้นทุน ทั้งค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน ลงมาแล้ว ซึ่งมีผลให้ต้นทุนสินค้าลดลง ถือเป็นต้นทางนำไปสู่การพูดคุยกับผู้ประกอบการ ซึ่งได้มอบหมายให้กรมการค้าภายในไปหารือ และทำความเข้าใจในสิ่งที่ประชาชนต้องการแล้ว มีระยะเวลา 15 วัน ที่จะมาแจ้งว่าอะไรได้ อะไรไม่ได้ มีสินค้าอะไรบ้าง ซึ่งคาดว่าในวันที1ต.ค.น่าจะสามารถประกาศรายการสินค้าที่จะปรับลดราคาเอเป็นของขวัญช่วงปลายปีให้กับประชาชนได้
“ในสัปดาห์หน้าจะเชิญผู้ประกอบการรายใหญ่ ทั้งผู้ผลิตสินค้า ผู้ประกอบการ เอกชนรายใหญ่ สภาหอการค้ามาหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ต่างๆทั้งราคาสินค้าอุปโภคบริโภค การส่งออก เพื่อหาทางออกร่วมกัน”
สำหรับการดูแลสินค้าเกษตร จะบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับสถานการณ์ โดยสร้างหลักประกันว่าผลผลิตจะต้องขายได้ในราคาที่เหมาะสม มีการจัดช่องทางการจำหน่ายและกระจายผลผลิตที่มีประสิทธิภาพ ส่งเสริมการลดต้นทุน เช่น ปุ๋ยเคมี ค่าเมล็ดพันธุ์ ค่าเครื่องจักร และผลักดันให้มีการแปรรูป ใช้นวัตกรรม และนำเทคโนโลยีมาใช้ในการผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิต
ส่วน ในเรื่องเงินดิจิทัล วอลเล็ต ที่รัฐบาลมีเป้าหมายในการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ได้มอบหมายให้หน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์นำไปคิดว่าจะเชื่อมโยงกับนโยบายได้อย่างไร เพราะมีข้อท้วงติงจากประชาชนว่ารัศมี 4 กิโลเมตร อาจจะไม่เข้าถึงในบางพื้นที่ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สามารถเข้าไปช่วยได้ เช่น เชื่อมโยงฐานข้อมูลช่องทางการตลาดที่กระทรวงพาณิชย์ส่งเสริม เช่น ร้านค้าธงฟ้า ร้านอาหารธงฟ้า ตลาดต้องชม Farm Outlet หมู่บ้านทำมาค้าขาย เพื่อให้การใช้งานของประชาชนสะดวกมากยิ่งขึ้น และให้เตรียมอำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสินค้าของประชาชนซึ่งอยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่มีเงื่อนไขข้อจำกัดในการใช้งาน เช่น จัดรถพุ่มพวงเข้าไปจำหน่ายสินค้า เป็นต้น