นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น (งบกลางฯ ปี 2566) จำนวนทั้งสิ้น 2,310.26 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนุนอาหารกลางวันและเงินอุดหนุนสำหรับสนุบสนุนอาหารเสริม (นม)
โดยให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เทศบาลนคร เทศบาลเมือง และกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ โดย มท. จะนำเงินงบกลางฯ ปี 2566 ที่ได้รับจัดสรรครั้งนี้ ไปชำระเป็นค่าอาหารกลางวันและจัดซื้ออาหารเสริม (นม) ให้แก่โรงเรียนสำหรับไตรมาสที่ 4
ทั้งนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 อนุมัติให้ปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันให้แก่นักเรียนระดับชั้นเด็กเล็กถึงระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ในอัตราตามขนาดของโรงเรียน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และมีมติเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2565 อนุมัติปรับเพิ่มราคากลางในการจำหน่ายผลิตภัณฑ์นมโครงการอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ส่งผลให้งบประมาณรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวันและรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารเสริม (นม) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นและหน่วยรับงบประมาณตรงไม่เพียงพอ เนื่องจากการปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันและอาหารเสริม (นม) โรงเรียน ตามมติคณะรัฐมนตรีและมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการ
กระทรวงมหาดไทย จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรายการเงินอุดหนุนสำหรับสนับสนุนอาหารกลางวัน และเงินอุดหนุนสำหรับสนันสนุนอาหารเสริม (นม)
ทั้งนี้ สำนักงบประมาณแจ้งผลการพิจารณาการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการดังกล่าว เป็นเงินทั้งสิ้น 2,310,262,300 บาท จำแนกตามหน่วยรับงบประมาณได้ ดังนี้
โดยในการขอรับจัดสรรงบกลางฯ ปี 2566 ครั้งนี้ มท. ได้คำนวณค่าใช้จ่ายจากจำนวนนักเรียนจริงในภาคเรียนที่ 1/2566 สำหรับรายละเอียดรายการเงินอุดหนุน วงเงิน 2,310,262,300 บาท จำแนกเป็น
ส่วนค่าใช้จ่ายอาหารเสริม (นม) เด็กปฐมวัย มท. ได้ปรับแผนการปฏิบัติงาน และแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อรองรับค่าใช้จ่ายไว้แล้ว