รัฐบาลขีดเส้นสรุป เงินดิจิทัล 10,000 บาท ไม่เกิน 10 วัน ชงครม.

18 ก.ย. 2566 | 04:46 น.
อัปเดตล่าสุด :18 ก.ย. 2566 | 05:06 น.

“จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยัน ไม่เกิน 10 วัน รัฐบาลพร้อมชงครม.ไฟเขียวกรอบการทำนโยบายการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทั้งแหล่งที่มาของเงิน เงื่อนไข แย้มอาจปรับให้เกินรัศมี 4 กม.

วันนี้ (18 กันยายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงการดำเนินนโยบายการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า คณะทำงานศึกษารายละเอียดของแนวทางในการดำเนินนโยบาย จะสรุปรายละเอียดโครงการเสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 วันนี้ เพื่อพิจารณาเห็นชอบ

ทั้งนี้ในการหารือของคณะทำงานจะประกอบไปด้วยกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะหารือกันในวันที่ 19 กันยายน 2566 เบื้องต้นในแนวทางการดำเนินงานจะรับฟังข้อเสนอต่าง ๆ โดยเฉพาะเรื่องของการปรับเงื่อนไขการใช้เงินภายในรัศมี 4 กม. นั้น จะมีการปรับให้เป็นระยะที่เหมาะสมต่อไป

“ในข้อกังวลเรื่องของเงื่อนไขการใช้ในรัศมี 4 กม. รัฐบาลได้รับฟังข้อเสนอของภาคประชาชน รวมถึงหลายภาคส่วน ที่ต้องการให้ขยายพื้นที่การใช้เงินดิจิทัลได้ โดยยืนยันว่าจะเป็นการใช้ในระยะที่เหมาะสม แต่สุดท้ายจะเป็นเช่นไร ขอให้รอฟัง ซึ่งไม่นานจะได้ข้อสรุปแน่นอน”

นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ตามข้อเสนอให้ขยายในระดับอำเภอแทนนั้น เบื้องต้นมองว่า เป็นแนวคิดที่เป็นประโยชน์ เพื่อทำให้การใช้เงินดิจิทัลเกิดความสะดวกมากขึ้น โดยสิ่งสำคัญ คือ รัฐบาลยังคงยึดกรอบแนวความคิด ว่าการทำนโยบายนี้จะต้องช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับชุมชนฐานราก ซึ่งจะต้องทำให้เกิดความสมดุลในทุกเรื่อง และต้องมีความเหมาะสมด้วย

อย่างไรก็ตามในข้อสรุปนั้น ยอมรับว่า เดิมนายกฯ กำหนดไวว่าจะต้องได้ข้อสรุปภายใน 14 วัน แต่ตอนนี้เหลือ 10 วันแล้ว ก็เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะจะเร่งหารือในวันพรุ่งนี้ โดยข้อสรุปที่จะเสนอครม. จะมีทั้งกรอบวงเงินดำเนินโครงการที่ชัดเจน เงื่อนไขรายละเอียดของการใช้เงินดิจิทัล รวมถึงแหล่งเงินต่าง ๆ ที่จะนำมาใช้ในโครงการด้วย

ส่วนกรณีการแต่งตั้งข้าราชการะดับสูงของกระทรวงการคลัง หลายหน่วยงานที่จะมีผู้เกษียณอายุนั้น เบื้องต้นคงต้องรอให้ปลัดกระทรวงได้รับการโปรดเกล้าฯ ก่อน จากนั้นจึงจะนำเสนอรายชื่อข้าราชการในหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามายังครม.ต่อไป