นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับการลงพื้นที่จังหวัดสกลนคร ติดตาม ความคืบหน้าโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงที่สำคัญของกระทรวงคมนาคม เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่นั้น พบว่ามีโครงการก่อสร้างโครงข่ายทางหลวงที่สำคัญในพื้นที่ ดังนี้
1. ถนนภายในเขตเทศบาลตำบลบ้านม่วง เนื่องจากมีผู้แทนประชาชนได้เสนอขอให้ ทล. ก่อสร้าง ทางเลี่ยงเมืองบ้านม่วง บน ทล.2096 ตอน หนองกา - บ้านม่วง - คำตะกร้า เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ประชาชนในพื้นที่
2. ถนน ทล.222 สายพังโคน - บึงกาฬ ตอน อำเภอวานรนิวาส - อำเภอคำตากล้าระหว่าง กม. ที่ 31+500 - 41+150 และ กม. ที่ 41+900 - 54+117 ระยะทาง 21.867 กิโลเมตร เสนอของบประมาณปี 2567 วงเงินงบประมาณ 1,200 ล้านบาท ขยายถนนเป็น 4 ช่องจราจร
3.ถนนภายในอำเภอวาริชภูมิ จังหวัดสกลนคร ประกอบด้วย โครงการก่อสร้าง ทล.2218 ตอน คำเพิ่ม - ห้วยบาง และโครงการก่อสร้าง ทล.227 ตอนบ้านผาสุก - พังโคน โครงการงานปีเดียว เสนองบประมาณปี 2567 และ 2568 ปรับปรุงเพิ่มมาตรฐานทางหลวงจากถนนเดิมกว้าง 7- 9 เมตร เป็น 12 เมตร (มาตรฐานทางชั้น 1) และปรับปรุงทางหลวงบริเวณย่านชุมชนเป็นช่วง ๆ
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากระทรวงคมนาคมได้เร่งรัดผลักดันการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ ลดต้นทุนโลจิสติกส์ รวมถึงอำนวยความสะดวกในการเดินทางให้แก่ประชาชน ลดมลพิษและแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่เขตเมือง
“ตนได้มีข้อสั่งการให้ ทล. แก้ไขปัญหาการชำรุดของสะพานบน ทล.2229 ช่วงบ้านโคกก่อง - บ้านกุดเรือคำ ที่ทรุดตัวเนื่องจากการสูบน้ำใต้ดินเพื่อทำนาเกลือในบริเวณใกล้เคียงทำให้พื้นดินทรุดตัวลง และได้ปิดเส้นทางไปแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาศึกษาวิธีแก้ไขปัญหาประมาณ 3 เดือน โดย ทล. จะเร่งสร้างทางเบี่ยงเพื่อให้ประชาชนได้ใช้สัญจรชั่วคราวไปก่อน”
นอกจากนี้ได้มอบให้ ทล. ดำเนินการขยายถนนทั้งหมด 3 โครงการ ประกอบด้วย 1.ขยายถนน ทล.222 สายพังโคน - บึงกาฬ เป็น 4 ช่องจราจร ก่อสร้างสะพานลอยหน้าโรงเรียน และติดตั้งไฟสัญญาณจราจร เนื่องจากเป็นเส้นทางสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังจังหวัดบึงกาฬ 2.ขยายถนน ทล.227 ตอน บ้านผาสุก - พังโคน พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่างและสัญญาณไฟจราจร เนื่องจากเป็นเส้นทางสายสำคัญที่เชื่อมต่อไปยังจังหวัดกาฬสินธุ์ และ3.ขยาย ทล.2094 สายพรรณานิคม - อากาศอำนวย พร้อมติดตั้งไฟส่องสว่าง และระบบระบายน้ำ
อย่างไรก็ตามเมื่อโครงการก่อสร้างต่าง ๆ ในพื้นที่จังหวัดสกลนครแล้วเสร็จสมบูรณ์ จะทำให้การเชื่อมต่อด้านคมนาคมขนส่งทุกโหมดการเดินทางได้อย่างไร้รอยต่อ เพิ่มประสิทธิภาพโครงข่ายการคมนาคมขนส่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สามารถรองรับปริมาณการเดินทางและคมนาคมขนส่งที่เพิ่มสูงขึ้นในอนาคต เชื่อมโยงโครงข่ายคมนาคมขนส่งกับภูมิภาคอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และมีความปลอดภัย อีกทั้งยังเป็นการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป