"สุริยะ" ยันไม่พับแผน สร้างแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้าน

21 ก.ย. 2566 | 05:46 น.
อัปเดตล่าสุด :21 ก.ย. 2566 | 05:46 น.

"สุริยะ" เดินหน้าสร้าง "แลนด์บริดจ์" ต่อ สั่งสนข.ศึกษาให้รอบคอบ เหตุโครงการมูลค่าสูง เตรียมโรดโชว์ต่างประเทศดึงต่างชาติร่วมทุน ลุ้นชงครม.เคาะหลักการ พ.ย.-ธ.ค.นี้

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงกรณีสั่งชะลอการดำเนินการโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมฝั่งทะเลอ่าวไทย - อันดามัน (ชุมพร - ระนอง) หรือ โครงการแลนด์บริดจ์ (Land Bridge) ว่า ตนยืนยันไม่เคยมีการสั่งการให้ยกเลิกการดำเนินงานโครงการ ทั้งนี้ยังพร้อมสนับสนุนโครงการอย่างเต็มที่ ปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาโครงการของสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) หากเมื่อศึกษาแล้วเสร็จ จะเดินหน้าตามกระบวนการต่อไป

\"สุริยะ\" ยันไม่พับแผน สร้างแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้าน

 "แนวทางการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมนั้น เป็นไปตามการมอบนโยบายให้หน่วยงาน ในสังกัดกระทรวง เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา มอบหมายให้ดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ภายใต้นโยบาย คมนาคมเพื่อความอุดมสุขของประชาชนพร้อมทั้งได้เน้นย้ำให้ดำเนินงานอย่างรอบคอบ และให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่ส่งผลกระทบกับประชาชนเป็นลำดับแรก เพื่อยกระดับการเดินทางและส่งเสริมคุณภาพชีวิตให้กับพี่น้องประชาชน"

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกันการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของกระทรวงฯ จะมีการจัดลำดับเป้าหมายในการขับเคลื่อนตามความสำคัญ ยึดหลักผลประโยชน์ประเทศและประชาชนจะได้รับเป็นที่สำคัญ โดยเฉพาะโครงการขนาดใหญ่ทุกโครงการ จะต้องมีการศึกษาและบูรณาการงานร่วมกันอย่างรอบคอบมากที่สุด โครงการไหนที่เป็นประโยชน์พร้อมที่จะเดินหน้าผลักดันให้เกิดผลเป็นรูปธรรมต่อไป

\"สุริยะ\" ยันไม่พับแผน สร้างแลนด์บริดจ์ 1 ล้านล้าน

นายปัญญา ชูพานิช ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์นั้น ขอยืนยันว่าไม่ได้มีการยกเลิกโครงการฯ ตามที่เป็นข่าวแต่อย่างใด โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมผลักดันโครงการแลนด์บริดจ์ ได้มอบหมายให้ สนข. ทำการศึกษาโครงการฯ ให้ครอบคลุมทุกมิติอย่างรอบคอบ และรัดกุม เพื่อประโยชน์ประเทศชาติและประชาชน เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่าการลงทุนสูง

นายปัญญา กล่าวต่อว่า โครงการฯ อยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ในการพัฒนาและลงทุนโครงการ โดยเฉพาะการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมต้องดำเนินการด้วยความรอบคอบ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตามแผนการดำเนินงานจะมีการจัดประชุมทดสอบความสนใจและรับฟังความเห็นของภาคเอกชน ประชาชนในพื้นที่ และทุกภาคส่วนที่มีต่อโครงการฯ เพื่อนำมาประกอบการศึกษาความเป็นไปในการพัฒนาโครงการฯ ต่อไป

 

 สำหรับระยะเวลาดำเนินโครงการฯจะเสนอ ครม.อนุมัติในหลักการภายในเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 66 และเดินหน้าโรดโชว์ภายในปลายปี 66 ถึงต้นปี 67 หลังจากนั้นจะศึกษารูปแบบโครงการเบื้องต้น ความเหมาะสมโครง และจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) แล้วเสร็จภายในกลางปี 67 โดยจะออกแบบรายละเอียดภายในปลายปี 67 และจัดทำเอกสารประกวดราคา และจะเสนอครม.อนุมัติเพื่อเปิดประมูลโครงการภายในปี 68 ซึ่งจะเริ่มงานก่อสร้าง ภายในต้นปี 69 คาดว่าจะทยอยเปิดโครงการในระยะแรกได้ ภายในปี 2573

 

ทั้งนี้โครงการนี้จะให้เอกชนลงทุน 100% โดยรัฐจะลงทุนเฉพาะค่าเวนคืนเท่านั้น เนื่องจากวงเงินลงทุนมีมูลค่าสูงประมาณ 1 ล้านล้านบาท ที่ผ่านมามีนักลงทุนต่างประเทศให้ความสนใจประมาณ 2 - 3 ราย แต่เงียบไป ดังนั้น เพื่อดึงดูดให้นักลงทุนมีความสนใจในโครงการมากขึ้น กระทรวงฯ จะต้องไปทำ Roadshow เพื่อรับฟังความเห็นจากนักลงทุนต่างในประเทศ ทั้งในจีน ยุโรป อเมริกา และประเทศอื่น ๆ

 

นอกจากนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งรัดและดำเนินโครงการของกระทรวงในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและการให้บริการด้านคมนาคมขนส่งในทุกมิติ ทั้งทางบก ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ ให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลให้เกิดผลเป็นรูปธรรมที่ชัดเจน มีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัยและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

 

 อย่างไรก็ตามประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงบริการได้อย่างเสมอภาค และให้ความสำคัญกับการบูรณาการการทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ ถูกต้องตามระเบียบและกฎหมาย มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศและความอุดมสุขของประชาชน