ครม.เทกระจาด 3.3 พันล้าน จัดงบกลางทิ้งทวน ก่อนสิ้นงบประมาณ 66

27 ก.ย. 2566 | 01:23 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ก.ย. 2566 | 05:23 น.

สรุปมติครม. จัดหนัก เทกระจาด 3.3 พันล้าน ไฟเขียวงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ทิ้งทวน ครม. นัดสุดท้ายก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ 2566 เช็ครายละเอียดได้รวมไว้ที่นี่

การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2566 มีเรื่องน่าสนใจของหลายหน่วยงานเสนอเข้ามายังที่ประชุมเพื่อพิจารณาอนุมัติ “งบกลาง” หรือ ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อทิ้งทวนการประชุมครม. นัดสุดท้ายก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ 2566 คิดเป็นวงเงินสูงถึง 3,353 ล้านบาท

สำหรับมติครม. ซึ่งผ่านการเห็นชอบจัดสรรงบกลาง ปี 2566 ของหน่วยงานต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้

จัดงบ 1,024 ล้าน อุดหนุนซื้อรถ EV 

เรื่องแรก ครม.มีมมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลางฯ 1,024.41 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ 

เพื่อให้มาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้รับสิทธิตามมาตรการฯ ที่จะต้องลงทุนในการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศภายในปี 2567 - 2568 ตามเงื่อนไขของมาตรการฯ และสร้างความเชื่อมั่นของประชาชนในการตัดสินใจซื้อยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป

 

ครม.เทกระจาด 3.3 พันล้าน จัดงบกลางทิ้งทวน ก่อนสิ้นงบประมาณ 66

อัดเงินอุดหนุนเกษตรกร 1,034 พันล้าน

ต่อมาครม. มีมติอนุมัติใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลางฯ วงเงิน 1,034.9 ล้านบาท (เบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุน ประเภทอุดหนุนทั่วไป) สำหรับเป็นเงินอุดหนุนเกษตรกรของโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี 2564 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานปัญหาอุปสรรคการดำเนินงาน เนื่องจากการตรวจประเมินระบบการผลิตข้าวอินทรีย์และการจ่ายเงินอุดหนุนของโครงการจะแล้วเสร็จข้ามปีงบประมาณ ซึ่งการปลูกข้าวอินทรีย์ส่วนใหญ่จะเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนพฤศจิกายน - ธันวาคมของทุกปี 

ทำให้การตรวจประเมินระบบการผลิตข้าวอินทรีย์ การตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล และการจ่ายเงินอุดหนุนจะแล้วเสร็จข้ามปีงบประมาณอีกปีหนึ่ง ซึ่งเกินระยะเวลาตามแผนของโครงการที่กำหนดไว้ทำให้การดำเนินโครงการไม่สามารถเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีอนุมัติไว้แล้ว 

ประกอบกับงบประมาณประจำปีที่ได้รับจัดสรรในแต่ละปีไม่เพียงพอกับที่จะจ่ายเงินอุดหนุนให้เกษตรกรซึ่งโครงการมีปริมาณงานที่ยังเหลือ ซึ่งการจ่ายเงินอุดหนุนเกษตรกรในปี 2564 จะเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว

 

ครม.เทกระจาด 3.3 พันล้าน จัดงบกลางทิ้งทวน ก่อนสิ้นงบประมาณ 66

ช่วยค่าปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน

ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบประมาณรายจ่ายงบกลาง 397.12 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน งบเงินอุดหนุน รายการค่าจัดการเรียนการสอน (ปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน) ภาคเรียนที่ 1/2566 (กลุ่มใหม่) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับจัดสรรงบประมาณให้กับนักเรียนจำนวน 6,339,932 คน แต่จากข้อมูลภาคเรียนที่ 1/2566 มีนักเรียน จำนวน 6,552,101 คน ซึ่งมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นจากที่ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวน 212,169 คน ส่งผลให้งบประมาณไม่เพียงพอสำหรับการจัดสรรงบประมาณให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ

ดังนี้ สำนักงบประมาณ จึงเสนอนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาแล้ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง 397,120,300 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจนกลุ่มใหม่

จ่ายค่าตอบแทนสำนักพระพุทธฯ

ครม.มีมติอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง เพื่อเป็นค่าตอบแทนรายเดือนแก่เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) จำนวน 3,320 อัตรา จำนวน 346.72 ล้านบาท ตามที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเสนอ

ทั้งนี้ สำนักงบประมาณ แจ้งว่า นายกรัฐมนตรีเห็นชอบให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง ภายในกรอบวงเงิน 346,726,400 บาท เพื่ออุดหนุนสมทบค่าตอบแทนรายเดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ถึงเดือนกันยายน 2566 แก่เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) แผนกสามัญศึกษา จำนวน 3,320 อัตรา ตามข้อมูลยืนยันตัวบุคคลพร้อมรับรองความถูกต้อง

เพื่อจัดการเรียนการสอนให้แก่นักเรียน (เณร) ปีการศึกษา 2566 จำนวน 32,736 รูป จำแนกเป็นผู้ปฏิบัติงานสอนวิชาสามัญ ตามประกาศคณะกรรมการการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ว่าด้วยขนาดโรงเรียนและกรอบอัตรากำลังพนักงานศาสนการด้านการศึกษา พ.ศ. 2555 ในอัตราส่วนจำนวนครู 1 อัตรา ต่อนักเรียน (สามเณร) 20 รูป จำนวน 1,637 อัตรา

ผู้ปฏิบัติงานสอนวิชาบาลีในโรงเรียนพระปริยัติธรรมที่จัดการเรียนการสอน จำนวน 402 อัตรา และผู้สนับสนุนการสอนตามโครงสร้างสำนักงานการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษา ที่มีคนครอง จำนวน 1,207 อัตรา รวมถึงเจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) ที่พ้นตำแหน่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และ พ.ศ. 2566 จำนวน 74 อัตรา

โดยเบิกจ่ายในงบเงินอุดหนุนและขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป

จ่ายเบี้ยยังชีพคนพิการ-สูงอายุ

อีกเรื่องที่สำคัญ ครม. มีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง เป็นเงิน 541.09 ล้านบาท ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ดังนี้

  • เงินอุดหนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ เป็นเงิน 518.71 ล้านบาท
  • เงินอุดหนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพความพิการ เป็นเงิน 22.37 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายบุคลากร สำนักงาน ป.ป.ช.

ครม.มีมติอนุมัติหลักการการขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง สำหรับค่าใช้จ่ายบุคลากรภาครัฐของสำนักงาน ป.ป.ช. เพิ่มเติม จำนวน 11,996,000 บาท ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (สำนักงาน ป.ป.ช.) เสนอ 

โดยให้สำนักงาน ป.ป.ช. ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ภายใต้แผนงานบุคลากรภาครัฐ รายการค่าใช้จ่ายดำเนินงาน จำนวน 2,781,954 บาท และใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบกลาง  จำนวน 9,214,046 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 11,996,000 บาท เพื่อสมทบเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรในส่วนที่ไม่เพียงพอต่อไป ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบด้วยแล้ว