1 ทศวรรษ “One Belt One Road” เดินหน้าสู่ศก.ดิจิทัล-พลังงานสีเขียว

13 ต.ค. 2566 | 06:15 น.
อัปเดตล่าสุด :13 ต.ค. 2566 | 06:18 น.

เดินหน้า One Belt One Road "สยาม ธิงค์แทงค์" เผยจ้างงานกว่า 4.5 หมื่นตำแหน่ง พร้อมเดินหน้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัลและอุตสาหกรรมพลังงานสีเขียว

นายหมินซิน หลี่ ผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ สยาม ธิงค์แทงค์ (Siam Think Tank) และนางเผิง เฟย ที่ปรึกษา สถานทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย ร่วมกันเปิดเผยว่า ในปี 2565 มูลค่าการค้าจีน-ไทยมีมูลค่ากว่า 134,990 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในปี 2565 การลงทุนขยายการลงทุนจากบริษัทของประเทศจีน มีมูลค่า 1,380 ล้านเหรียญสหรัฐ  โดยในอนาคตทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือในหลากหลายมิติต่อไป

เช่น เศรษฐกิจดิจิทัล และ อุตสาหกรรมพลังงานสีเขียว เป็นต้น ทั้งนี้เฉพาะในนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน ที่ตั้งอยู่ในอมตะซิตี้  200 โรงงาน ส่งผลให้เกิดการจ้างงานคนไทย กว่า 4.5 หมื่นตำแหน่ง สำหรับในอนาคต ทั้งสองประเทศจะขยายความร่วมมือในหลากหลายมิติต่อไป เช่น เศรษฐกิจดิจิตอล และ อุตสาหกรรมพลังงานสีเขียว เป็นต้น 

1 ทศวรรษ “One Belt One Road” เดินหน้าสู่ศก.ดิจิทัล-พลังงานสีเขียว

โดยในโอกาสฉลองครบรอบ 10 ปีของการเสนอข้อริเริ่ม “โครงการหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” (One Belt, One Road) โดย Siam Think Tank ได้จัดกิจกรรมศึกษาดูงาน Friends of Silk Road Club ของประเทศไทย เพื่อเยี่ยมชมโรงงาน ภายในนิคมอุตสาหกรรมไทย-จีน จ.ระยอง บนพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้แก่ โรงงานผู้ผลิตเครื่องนอนจากยางพารา บริษัท เว่ย ฮาว ลาเท็กซ์ จำกัด ซึ่งใช้วัตถุดิบอย่างพาราไทยเป็นหลัก

และโรงงานผลิตล้อแม็กซ์อลูมิเนียม บริษัท นิว ไทย วีล เมนูแฟคเจอริ่ง จำกัด เป็นบริษัทในเครือ ลีจงกรุ๊ป” เปิดดำเนินการสร้างโรงงานในประเทศไทย เมื่อปี 2010 มีเนื้อที่ในเฟสแรก 38 ไร่ และขยายในเฟส 2 อีก 54 ไร่รวมเป็น 92 ไร่ มีกำลังงานผลิตแรกเริ่ม 8 แสนวงต่อปี  จนในปัจจุบันมีกำลังการผลิต เต็มกำลัง 5 ล้านวงต่อปี เป็นโรงงานผลิตล้อแม็กรถยนต์ ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ปัจจุบันมีจำนวนพนักงาน 1,600 คน  โดยลูกค้า 20% จำหน่ายในไทย  และ 80% ส่งออกไปยังต่างประเทศ

นอกจากนี้บริษัทในเครือยังมีฐานผลิตที่ประเทศเม็กซิโก รวมกำลังการผลิตทั้ง 2 แห่งรวม 25 ล้านวงต่อปีส่งออกไปทั่วโลก  โดยลูกค้าหลักเป็น ค่ายรถยนต์ชั้นนำทั่วโลกอาทิ BMW, Chrysler, GM, Hyundai, Mazda, Nissan และ Suzuki เป็นต้น โดยล้อแม็กซ์ที่ผลิตในโรงงานแห่งนี้ ผ่านการวิจัยและพัฒนาอย่างมีคุณภาพ เพื่อก่อให้เกิดความปลอดภัยและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับรถยนต์ทุกคัน

1 ทศวรรษ “One Belt One Road” เดินหน้าสู่ศก.ดิจิทัล-พลังงานสีเขียว

พร้อมกันนี้ได้เยี่ยมชมบริษัทผู้ให้บริการโซลูชั่นเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) ชั้นนำระดับโลก ที่ให้บริการทั้งเครือข่ายโทรคมนาคมและเครือข่ายองค์กร อุปกรณ์ ตลอดจนเทคโนโลยีและบริการคลาวด์ โซลูชั่น ได้รับการยอมรับมากกว่า 170 ประเทศทุกและภูมิภาคทั่วโลก ที่ตั้งอยู่ใน กรุงเทพฯ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด( Huawei Technologies Thailand) ที่ให้บริการผู้ใช้งานกว่าหนึ่งในสามของประชากรทั่วโลก มีความมุ่งมั่นที่จะเปิดทางสู่สังคมสารสนเทศในอนาคตและการสร้างโลกแห่งการเชื่อมต่อที่ดีกว่า

นายหมินซิน หลี่ กล่าวเพิ่มเติมว่าโครงการ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” หรือ OneBelt,One Road เป็นโครงการระดับโลก ที่มีวัตถุประสงค์สำคัญในการเชื่อมโยงเส้นทางการค้า การลงทุน และพัฒนาพื้นที่ในทวีปเอเชีย ยุโรป และแอฟริกา โครงการฯ ประกอบด้วยสองส่วนหลักคือ  การสร้างโครงข่ายทางขนส่งทางบกและทางทะเล โดยมีการพัฒนาเส้นทางงรถไฟ ถนน ท่าเรือ และสนามบิน เชื่อมต่อภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และ แอฟริกา เข้าด้วยกัน

1 ทศวรรษ “One Belt One Road” เดินหน้าสู่ศก.ดิจิทัล-พลังงานสีเขียว

โดยประเทศที่ในเส้นทางของโครงการฯ ได้แก่ ไทย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อิหร่าน คาซัคสถาน โปแลนด์ ยูเครน เบลารุส กรีซ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน  อียิปต์ โมร็อกโก ซูดาน เคนยา รวันดา แองโกลา และ มาดากัสการ์ เป็นต้น จากการเชื่อมโยงภูมิภาค เอเชีย ยุโรป และแอฟริกา เข้าด้วยกัน ถือเป็นเส้นทางสายไหมยุคใหม่ ที่ช่วยผลักดันให้เกิดการสร้างสรรค์เส้นทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพ

สำหรับสยาม ธิงค์แทงค์เป็นการรวมตัวกันของบุลคลากรชั้นนำ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มนักวิชาการ ทั้งจากมหาวิทยาลัย และสถาบันวิจัย พร้อมด้วยบุคลากรทางการทูต ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และนโยบายสาธารณะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและเศรษฐศาสตร์ รวมทั้งผู้ประกอบวิชาชีพด้านสื่อสารมวลชน