วันนี้ (16 ตุลาคม 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อนที่นายกฯ และคณะ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน อย่างเป็นทางการ และเข้าร่วมเข้าร่วมการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 3 (Belt and Road Forum for International Cooperation : BRF) ในช่วงระหว่างวันที่ 16-19 ตุลาคม 2566
สำหรับวาระสำคัญที่คาดว่าจะเสนอเข้ามายังที่ประชุมครม. พิจารณาวันนี้ กระทรวงคมนาคม เตรียมเสนอการการดำเนินโครงการค่าโดยสาร รถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ตามนโยบายรัฐบาล หลังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้ง การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ได้นำส่งผลการศึกษา และมติคณะกรรมการทั้งหมดมายังกระทรวงคมนาคมแล้ว
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ระบุก่อนหน้านี้ว่า หากนโยบายรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย ผ่านการเห็นชอบจากครม. แล้ว จะประกาศใช้ได้ทันทีในช่วงบ่าย แต่จะมีผลใช้เฉพาะการเดินทางในสายเดียว เพราะการเดินทางข้ามสายต้องใช้เวลาติดตั้งระบบก่อน เบื้องต้นคาดว่าจะสามารถใช้งานได้ประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 นี้
สำหรับการคิดค่าโดยสารรถไฟฟ้าราคา 20 บาทตลอดสาย กระทรวงคมนาคม จะเริ่มนำร่องก่อน 2 สาย คือ
ทั้งนี้ผู้ที่จ่ายค่าโดยสารระหว่าง 14 - 17 บาท จะจ่ายในราคาเดิม ส่วนผู้โดยสารที่จ่ายค่าโดยสารในราคามากกว่า 20 บาท จะได้ใช้บริการรถไฟฟ้าในราคา 20 บาท รวมทั้งมีส่วนลดสำหรับผู้สูงอายุโดยจะได้ใช้บริการในราคา 10 บาทด้วย
ขณะเดียวกัน กระทรวงคมนาคม ยังเสนอขออนุมัติตำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ ช่วงขอนแก่นหนองคาย ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ด้วย
ด้าน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอขออนุมัติปรับเพิ่มราคาน้ำนมดิบเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรโคนม และ เสนอขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการอนุรักษ์พื้นที่ชุ่มน้ำ ที่ดินสาธารณประโยชน์แปลง "ทุ่งหนองแด" ตำบลกุดสระอำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี
ด้าน กระทรวงการต่างประเทศ เสนอการยกเว้นการตรวจลงตรา เพื่อการท่องเที่ยวให้แก่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางสัญชาติรัสเซีย เป็นกรณีพิเศษและเป็นการชั่วคราว
รวมทั้งยังมีการเสนอเอกสารเอ็มโอยู ในประเด็นเกี่ยวกับการประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ครั้งที่ 3 (Belt and Road Forum for International Cooperation : BRF) อีก 6-7 ฉบับ ก่อนที่นายกฯ และคณะจะเดินทางไปร่วมประชุม BRF ที่ประเทศจีน
เช่นเดียวกับการเสนอขอความเห็นชอบต่อร่างเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมสุดยอดอาเซียน-คณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ ด้วย
พร้อมกันนี้ยังต้องติดตามการรายงานสถานการณ์การช่วยเหลือคนไทย และแรงงานไทยที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการร์ความไม่สงบในประเทศอิสราเอล ของทั้งกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงแรงงาน รวมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งติดตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติมถึงแนวทางการดูแลช่วยเหลือคนไทยด้านต่าง ๆ ต่อไป
นอกจากนี้ยังต้องติดตามวาระการแต่งตั้งข้าราชการการเมืองในหน่วยงานต่าง ๆ ว่า ในการประชุมวันนี้ จะมีการแต่งตั้งเพิ่มเติมหรือไม่ โดยเฉพาะทีมที่ปรึกษาของรัฐมนตรีในแต่ละกระทรวง รวมไปถึงการแต่งตั้งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ยังมีโควตาเหลืออีกหนึ่งตำแหน่งด้วย