นายกฯ แจ้งบอร์ดเงินดิจิทัล 10000 บาท ชุดใหญ่ เตรียมประชุมสัปดาห์หน้า

02 พ.ย. 2566 | 04:15 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ย. 2566 | 07:28 น.

นายกรัฐมนตรี ยอมรับเตรียมนัดประชุมคณะกรรมการเงินดิจิทัล 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet สัปดาห์หน้า เคาะทางเลือก ข้อสรุปการเดินหน้าโครงการ

วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมกาชุดใหญ่ ใช่หรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับสั้น ๆ ว่า “ครับ”

รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการรนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น เตรียมพิจารณาข้อสรุปจากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่มีนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธาน หลังจากได้มีการหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ จนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเงื่อนไข หลักเกณฑ์ รวมไปทั้งแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการเบื้องต้นแล้ว 

โดยคณะอนุกรรมการฯ จะทางเลือกอื่น ๆ ในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ นอกเหนือไปจากการแจกแบบถ้วนหน้าตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน ใช้งบประมาณ 560,000 ล้านบาท โดยทางเลือกที่คณะอนุกรรมการฯ นั้น มี 3 แนวทางดังนี้ 

  • ให้เฉพาะกลุ่มที่เคยลงทะเบียนคนจน จำนวน 15-16 ล้านคน ต้องใช้งบประมาณ 150,000-160,000 ล้านบาท
  • กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 25,000 บาทต่อเดือน จำนวน 43 ล้านคน และมีเงินฝากในบัญชีเกิน 1 แสนบาท ต้องใช้งบประมาณ 430,000 ล้านบาท
  • กลุ่มที่มีรายได้ไม่เกิน 50,000 บาทต่อเดือน จำนวน 49 ล้านคน และมีเงินฝากในบัญชีเกิน 5 แสนบาท ต้องใช้งบประมาณ 490,000 ล้านบาท 

ขณะที่การกำหนดเงื่อนไขอื่น ๆ มีความเป็นไปได้ว่า ร้ฐบาลจะปรับปรุงเงื่อนไขเกี่ยวกับรัศมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัล จากเดิมที่รัฐบาลกำหนดแนวทางเอาไว้ว่าให้ใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตร ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในพื้นที่ และทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เกิดเงินหมุนเวียนลงไปนั้น จะปรับเงื่อนไขเป็นสามารถใช้จ่ายในระดับอำเภอ ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านแทน

นอกจากนี้แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า หนึ่งในรายละเอียดของโครงการนั้นมีการเสนอเงื่อนไขการใช้เงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะกำหนดว่า ผู้ที่ได้รับเงินดิจิทัลสามารถนำเงินดิจิทัลไปใช้ได้กับสินค้าตามที่ระบุไว้เท่านั้น โดยที่ไม่สามารถนำมาใช้กับ “บริการ” ต่าง ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ต่าง ๆ ไม่สามารถร่วมในโครงการ และใช้เงินดิจิทัลได้

อย่างไรก็ตามในรายละเอียด และเงื่อนไขทั้งหมดของการนโยบายแจกดิจิทัล 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะมีการปรับเงื่อนไขใดเพิ่มเติม เช่นเดียวกับแหล่งเงินที่ใช้ในโครงการอีกนั้น หากได้ข้อสรุป ฐานเศรษฐกิจจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป