วันนี้ (2 พฤศจิกายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงกรณีการประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่าในสัปดาห์หน้าจะมีการประชุมคณะกรรมกาชุดใหญ่ ใช่หรือไม่ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวยอมรับสั้น ๆ ว่า “ครับ”
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ในการประชุมคณะกรรมการรนโยบายโครงการเติมเงินดิจิทัล 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธานนั้น เตรียมพิจารณาข้อสรุปจากการประชุมคณะอนุกรรมการฯ ที่มีนายจุลพันธุ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เป็นประธาน หลังจากได้มีการหารือกับหน่วยงานต่าง ๆ จนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับเงื่อนไข หลักเกณฑ์ รวมไปทั้งแหล่งที่มาของเงินที่จะใช้ในโครงการเบื้องต้นแล้ว
โดยคณะอนุกรรมการฯ จะทางเลือกอื่น ๆ ในการแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ต่อคณะกรรมการชุดใหญ่ นอกเหนือไปจากการแจกแบบถ้วนหน้าตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป จำนวน 56 ล้านคน ใช้งบประมาณ 560,000 ล้านบาท โดยทางเลือกที่คณะอนุกรรมการฯ นั้น มี 3 แนวทางดังนี้
ขณะที่การกำหนดเงื่อนไขอื่น ๆ มีความเป็นไปได้ว่า ร้ฐบาลจะปรับปรุงเงื่อนไขเกี่ยวกับรัศมีการใช้จ่ายเงินดิจิทัล จากเดิมที่รัฐบาลกำหนดแนวทางเอาไว้ว่าให้ใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตร ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้าน เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายในพื้นที่ และทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่เกิดเงินหมุนเวียนลงไปนั้น จะปรับเงื่อนไขเป็นสามารถใช้จ่ายในระดับอำเภอ ตามที่อยู่ในทะเบียนบ้านแทน
นอกจากนี้แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า หนึ่งในรายละเอียดของโครงการนั้นมีการเสนอเงื่อนไขการใช้เงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล หรือดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งจะกำหนดว่า ผู้ที่ได้รับเงินดิจิทัลสามารถนำเงินดิจิทัลไปใช้ได้กับสินค้าตามที่ระบุไว้เท่านั้น โดยที่ไม่สามารถนำมาใช้กับ “บริการ” ต่าง ๆ ได้ ด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้กลุ่มผู้ประกอบอาชีพอิสระ ต่าง ๆ ไม่สามารถร่วมในโครงการ และใช้เงินดิจิทัลได้
อย่างไรก็ตามในรายละเอียด และเงื่อนไขทั้งหมดของการนโยบายแจกดิจิทัล 10000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะมีการปรับเงื่อนไขใดเพิ่มเติม เช่นเดียวกับแหล่งเงินที่ใช้ในโครงการอีกนั้น หากได้ข้อสรุป ฐานเศรษฐกิจจะนำมารายงานให้ทราบต่อไป