ครม.เคาะกฎหมายแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด เริ่ม 1 ม.ค.67

07 พ.ย. 2566 | 06:07 น.
อัปเดตล่าสุด :07 พ.ย. 2566 | 06:54 น.

ครม.ไฟเขียวกฎหมายแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการ 2 งวด เรียบร้อย รมช.คลัง รับ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป สำหรับข้าราชการ ส่วนพนักงานลูกจ้าง มีผล 1 มีนาคม 2567

วันนี้ (7 พฤศจิกายน 2566) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จบำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่... )พ.ศ. .... เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ทั้งนี้หลังจากครม.เห็นชอบแล้ว ส่งผลให้แบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการเป็น 2 รอบ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม เริ่มมีผลตั้งแต่ดังนี้ 

  • ข้าราชการ เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป 
  • พนักงานลูกจ้าง เริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2567 เป็นต้นไป  

สำหรับหลักการจ่ายเงินเดือนๆละ 2 รอบนั้น แบ่งเป็นรอบแรกจะเริ่มจ่ายวันที่ 16 ของทุกเดือน และรอบสองจะจ่ายให้ในวันทำการก่อนวันทำการ 3 วันสุดท้ายของเดือน

นายกฤษฎา กล่าวว่า การแบ่งจ่ายเงินเดือนข้าราชการและลูกจ้างราชการนั้น เป็นแบบสมัครใจ เพราะไม่สามารถบังคับใครได้ โดยข้าราชการรายใดต้องการเงินเดือนละ 2 งวด กรมบัญชีกลาง จะเปิดให้ลงทะเบียนยื่นแบบแสดงความประสงค์ ตั้งแต่วันที่ 1-15 ธันวาคม 2566 สำหรับข้าราชการ 

ส่วนพนักงานลูกจ้าง ให้ยื่นแบบแสดงความประสงค์ได้ตั้งแต่วันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2567 และกรมบัญชีกลาง ยังให้สิทธิข้าราชการสามารถเปลี่ยนแปลงการรับเงินเดือนได้ปีละ 1 ครั้ง

ต่อมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ร่างพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน (ฉบับที่...) พ.ศ. .... ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม 

โดยแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “เงินเดือน” และปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการโดยสามารถแบ่งจ่ายเป็น 2 รอบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป เพื่อเป็นการเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินและพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ให้แก่ข้าราชการ รวมทั้งเป็นการเพิ่มอัตราเงินหมุนเวียนซึ่งจะช่วยเศรษฐกิจของประเทศ อีกทั้งเพื่อให้การเบิกจ่ายเงินเดือนของข้าราชการมีความคล่องตัว รวดเร็ว และสอดคล้องกับสภาวการณ์ปัจจุบัน

 

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

 

ทั้งนี้ ร่างพระราชกฤษฎีกา เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาการจ่ายเงินเดือน เงินปี บำเหน็จ บำนาญ และเงินอื่นในลักษณะเดียวกัน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยแก้ไขเพิ่มเติมบทนิยามคำว่า “เงินเดือน” หมายความว่า เงินเดือนและเงินอื่นที่มีกำหนดจ่ายเป็นเดือน หรือที่กำหนดจ่ายตามรอบระยะเวลาอื่นภายในแต่ละเดือนตามที่ ครม. กำหนด 

โดยจ่ายจากเงินงบประมาณรายจ่ายประเภทงบบุคลากรที่จ่ายลักษณะเงินเดือน (เพื่อให้เป็นไปตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566) และปรับเงื่อนไขการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการโดยสามารถแบ่งจ่ายเป็น 2 รอบ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป โดยเป็นการดำเนินการตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 

ประกอบกับกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) ได้กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และรายละเอียดในการจ่ายเงินเดือนของข้าราชการโดยแบ่งจ่ายเป็น 2 รอบ 

โดยมีกลุ่มเป้าหมายเป็นข้าราชการและลูกจ้างประจำที่อยู่ในระบบจ่ายตรงเงินเดือนและค่าจ้างประจำของกรมบัญชีกลาง (e-Payroll) จำนวน 230 หน่วยงาน (ข้าราชการพลเรือนสามัญ ข้าราชการในพระองค์ ข้าราชการรัฐสภา ข้าราชการทหาร ข้าราชการตำรวจ ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา และข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา) 

ทั้งนี้ ไม่รวมข้าราชการบำนาญ ข้าราชการการเมือง ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ข้าราชการฝ่ายอัยการ ข้าราชการฝ่ายศาลปกครอง ดองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ ข้าราชการกรุงเทพมหานครและบุคลากรกรุงเทพมหานคร และข้าราชการส่วนท้องถิ่น มีวิธีการตามความสมัครใจ 

โดยข้าราชการหรือลูกจ้างประจำสามารถเลือกการรับเงินเดือนหรือค่าจ้างประจำเป็นแบบจ่ายเดือนละ 1 รอบ หรือแบบจ่ายเดือนละ 2 รอบ ได้ ด้วยวิธีการยื่นแบบต่อส่วนราชการในกรณีที่เป็นข้าราชการสามารถยื่นแบบได้ตั้งแต่วันที่ 1-15 ธันวาคม 2566 และมีผลในเดือนมกราคม 2567 และลูกจ้างประจำสามารถยื่นแบบได้ตั้งแต่วันที่ 1-15 กุมภาพันธ์ 2566 และมีผลในเดือนมีนาคม 2567