21 พฤศจิกายน 2566 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ขยายระยะเวลาในการออกกฎหรือดำเนินการอย่างหนึ่งอย่างใดตามมาตรา 22 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ของมาตรา 9 (2) แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตามที่กระทรวงมหาดไทย (มท.) เสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยเสนอขอขยายระยะเวลาในการออกกฎหมายลำดับรอง ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการ จำนวน 1 ฉบับ ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 9 (2) แห่งพระราชบัญญัติการทวงถามหนี้ พ.ศ. 2558 ที่มีผลใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ. 2562 ใช้บังคับ
ดังนั้น จะต้องดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2566 ตามพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายฯ ประกอบมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 แต่โดยที่การดำเนินการออกกฎหมายลำดับรองฉบับดังกล่าวต้องใช้เวลาในการรวบรวมความคิดเห็นและข้อมูลจากผู้มีสิทธิและหน้าที่ หรือได้รับผลกระทบจากการใช้บังคับกฎหมายดังกล่าวอย่างรอบด้าน
รวมทั้งต้องหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อกำหนดช่วงเวลาอื่น (นอกจากเวลา 08.00 น. ถึง 20.00 น. ในวันจันทร์ถึงศุกร์ และเวลา 08.00 น. ถึง 18.00 น. ในวันหยุดราชการหรือช่วงเวลาดังกล่าวไม่เหมาะสม เช่น ลูกหนี้มีอาชีพทำงานในเวลากลางคืนและนอนหลับในเวลากลางวัน โดยปิดโทรศัพท์หรือปิดเสียงโทรศัพท์ทำให้ไม่สามารถติดต่อได้) ที่ผู้ทวงถามหนี้สามารถติดต่อลูกหนี้ได้ให้เป็นไปตามความเหมาะสมของสภาพการณ์ในปัจจุบันมากยิ่งขึ้น
ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องขอขยายระยะเวลาการออกกฎหมายลำดับรองออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน 2566