ธุรกิจตั้งใหม่เดือนตุลาคม 6.6 พันราย ทุนจดทะเบียน 2.7 หมื่นล้านบาท

23 พ.ย. 2566 | 05:10 น.
อัปเดตล่าสุด :23 พ.ย. 2566 | 05:14 น.

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดตัวเลขจดทะเบียนธุรกิจตั้งใหม่เดือน ต.ค.66 มีจำนวน 6.6 พันราย ทุนจดทะเบียนรวม 2.7 หมื่นล้านบาท ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สูงสุด 567 ราย ตามด้วยธุรกิจก่อสร้างอาคาร 498 ราย และภัตตาคาร-ร้านอาหาร 331 ราย

23 พฤศจิกายน 2566 นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า แถลงข่าวการจดทะเบียนธุรกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประจำเดือนตุลาคม 2566 โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ผลการจดทะเบียนธุรกิจธุรกิจจัดตั้งใหม่เดือนตุลาคม 2566 มีผู้ประกอบธุรกิจยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งห้างหุ้นส่วนบริษัทใหม่ทั่วประเทศในเดือนตุลาคม 2566 จำนวน 6,647 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 27,210.97 ล้านบาท โดยประเภทธุรกิจจัดตั้งใหม่สูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่

1.ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 567 ราย คิดเป็น 8.53% 

2.ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 498 ราย คิดเป็น 7.49% 

3.ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 331 ราย คิดเป็น 4.98% 

ธุรกิจจัดตั้งใหม่แบ่งตามช่วงทุน

โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจจัดตั้งใหม่ทั่วประเทศมากที่สุด ได้แก่ 

-ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท มีจำนวน 4,117 ราย คิดเป็น 61.94% 

-ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 2,438 ราย คิดเป็น 36.68% 

-ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท มีจำนวน 74 ราย คิดเป็น 1.11% 

-ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 18 ราย คิดเป็น 0.27% 

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการเดือนตุลาคม 2566 มีจำนวน 2,240 ราย โดยมีมูลค่าทุนจดทะเบียนจำนวน 8,954.24 ล้านบาท 

ประเภทธุรกิจเลิกประกอบกิจการสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ 

-ธุรกิจก่อสร้างอาคารทั่วไป จำนวน 185 ราย คิดเป็น 8.27%

-ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 136 ราย คิดเป็น 6.08% 

-ธุรกิจภัตตาคาร/ร้านอาหาร จำนวน 69 ราย คิดเป็น 3.08% ตามลำดับ 

ผลการจดทะเบียนธุรกิจประจำเดือนตุลาคม 2566

ธุรกิจเลิกประกอบกิจการแบ่งตามช่วงทุน โดยช่วงทุนที่มีจำนวนรายธุรกิจเลิกประกอบกิจการทั่วประเทศ มากที่สุด ได้แก่ 

-ช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 1,557 ราย คิดเป็น 69.51% 

-ช่วงทุนมากกว่า 1- 5  ล้านบาท จำนวน 586 ราย คิดเป็น 26.16% 

-ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 92 ราย คิดเป็น 4.11% 

-ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท มีจำนวน 5 ราย คิดเป็น 0.22% 

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ ณ 31 ตุลาคม 2566

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่ทั้งสิ้น  (ณ วันที่ 31 ต.ค. 66) โดยธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่ทั่วประเทศ จำนวน 889,424 ราย มูลค่าทุน 21.63 ล้านล้านบาท จำแนกเป็น

-ห้างหุ้นส่วนจำกัด/ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล จำนวน 200,041 ราย คิดเป็น 22.49% 

-บริษัทจำกัด จำนวน 687,947 ราย คิดเป็น 77.35% 

-บริษัทมหาชนจำกัด จำนวน 1,436 ราย คิดเป็น 0.16% 

ธุรกิจดำเนินกิจการอยู่แบ่งตามช่วงทุน

-ธุรกิจส่วนใหญ่มีช่วงทุนไม่เกิน 1 ล้านบาท จำนวน 516,978 ราย คิดเป็น 58.13% รวมมูลค่าทุน 0.45 ล้านล้านบาท คิดเป็น 2.10%

-ช่วงทุนมากกว่า 1-5 ล้านบาท จำนวน 275,612 ราย คิดเป็น 30.99% รวมมูลค่าทุน 0.94 ล้านล้านบาท คิดเป็น 4.38%

-ช่วงทุนมากกว่า 5-100 ล้านบาท จำนวน 78,923 ราย คิดเป็น 8.87% รวมมูลค่าทุน 2.16 ล้านล้านบาท คิดเป็น 10.00%

-ช่วงทุนมากกว่า 100 ล้านบาท จำนวน 17,911 ราย คิดเป็น 2.01% รวมมูลค่าทุน 18.06 ล้านล้านบาท คิดเป็น 83.53% ตามลำดับ 

การลงทุนประกอบธุรกิจในไทยภายใต้กฎหมายต่างด้าวเดือนตุลาคม 2566
เดือนตุลาคม 2566  มีการอนุญาตให้คนต่างชาติประกอบธุรกิจทั้งสิ้น มีจำนวน 63 ราย โดยมีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,953 ล้านบาท แบ่งเป็น

-ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ จำนวน 23 ราย

-หนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 40 ราย 

ทั้งนี้ เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน 2566 จำนวนธุรกิจที่คนต่างชาติเข้ามาลงทุนเพิ่มขึ้น 7% (เพิ่มขึ้น 4 ราย) ในขณะที่เงินลงทุนลดลง 40% (ลดลง 7,276 ล้านบาท)

นักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยมากที่สุด ได้แก่ ญี่ปุ่น จำนวน 12 ราย เงินลงทุน 5,901 ล้านบาท , จีน จำนวน 9 ราย เงินลงทุน 2,159 ล้านบาท และ สิงคโปร์ จำนวน 9 ราย เงินลงทุน 798 ล้านบาท ตามลำดับ

ปี 2566 (มกราคม – ตุลาคม) เดือนมกราคม – ตุลาคม 2566 คนต่างชาติได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ จำนวน 556 ราย มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 94,966 ล้านบาท