นายกฯ มั่นใจเต็มร้อย Tesla ลงทุนตั้งโรงงานในไทยใช้ที่ดิน 2,000 ไร่
นายกฯ “เศรษฐา” มั่นใจเต็มร้อย Tesla ลงทุนตั้งโรงงานในไทย เล็งใช้ที่ดิน 2,000 ไร่ ทำ EV เตรียมพร้อมโรดโชว์ญี่ปุ่น สัปดาห์หน้า หอบแพคเกจสิทธิประโยชน์ภาษี ดึงดูดค่ายรถยนต์สันดาปย้ายฐานลงทุนไทย
วันนี้ (7 ธันวาคม 2566) ที่สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวปาฐถกาพิเศษ หัวข้อ “อนาคตเศรษฐกิจไทย” ในงานสัมมนาวิชาการหลักสูตรวิทยาการการจัดการสำหรับนักบริหารระดับสูง (วบส.) โดยระบุถึงการลงทุนของบริษัท เทสลา (Tesla) ซึ่งเป็นบริษัทยานยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐอเมริกา ว่า มั่นใจเต็ม 100 ว่า Tesla จะลงทุนในประเทศไทยแน่นอน
“ระยะหลัง ๆ มีบริษัทใหญ่ ๆ เข้ามาดูประเทศไทยมาก และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว Tesla มาในประเทศไทย จะใช้คำว่า Go Out My Way ที่จะเอนเตอร์เทน และทำให้เขาหลงรักประเทศไทย ตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาในไทย โดยได้พาไปดูเรื่องของ Soft Power งานยี่เป็งที่เชียงใหม่ และได้พาไปด้วยตัวเอง จึงมีความมั่นใจอย่างมาก อยากจะใช้คำว่าเต็ม 100 ว่าเขามาประเทศไทยแน่นอน”
นายเศรษฐา กล่าวว่า ขณะนี้บริษัท Tesla กำลังเลือกการจะลงทุนในอุตสาหกรรมส่วนใดบ้าง โดยที่ดินที่ Tesla ต้องการคือประมาณ 2,000 ไร่ โดยจะไม่ใช่เป็นเพียงอู่ประกอบรถยนต์เพียงอย่างเดียว แต่จะเป็นซัพพลายเชนทั้งหมด จะมีการสร้างงาน และการลงทุนอีกมหาศาล ถือเป็นการยกระดับประเทศไทยขึ้นไปอีกระดับ ไม่ใช่ติดอยู่กับกับดักรายได้ปานกลาง เพื่อทำให้ประเทศไทยเป็นจุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมสมัยใหม่
ทั้งนี้ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่า หลายคนได้เห็นเป็นที่ประจักษ์กันดีอยู่แล้วว่า รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญในด้านการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเชิญนักลงมาให้มาลงทุนในไทย เพราะที่ผ่านมา 9 ปีเราไม่มีตัวตนเลยในเวทีโลก ต้องยอมรับว่าไม่มีเรื่องการเจรจาเอฟทีเอ หรือสนธิสัญญาการค้าระหว่างประเทศเกิดขึ้น ถือเป็นภารกิจใหญ่ของรัฐบาลนี้ที่ต้องเจรจาเอาสนธิสัญญากลับมาให้ได้ เพื่อให้ไทยเป็นแหล่งผลิตอุตสาหกรรมที่ทันสมัยสามารถส่งออกไปประเทศต่าง ๆ ได้
“ตนไปเยือนสปป.ลาว หนึ่งในหัวข้อที่พูดกันคือ ลาวจะขอขายไฟฟ้าพลังงานสีเขียวให้กับสิงคโปร์ เพราะสิงคโปรจะขอซื้อเพิ่ม ทางสถานทูตไทยบอกตนว่า เวลาเจรจาให้บอกว่า เราจะเก็บไปพิจารณา ผมบอกว่า ผมอยู่ในโลกของความเป็นจริง เราอยู่บนโลกของการแข่งขันสูง ถ้าผมบอกว่า เราจะพิจารณาให้ลาวขายไฟให้สิงคโปร์ บริษัทที่จะไปลงทุนในสิงคโปร์ก็จะมีความคาดหวังว่า สิงคโปร์อาจจะได้พลังงานสีเขียวไปจากลาวได้ ก็ทำให้เป็นคู่แข่งกับประเทศไทยได้”
นายกระบุต่อว่า “ด้วยเหตุนี้จึงตัดสินใจว่าผมไม่พูด ผมจะใช้วิธีการเจรจา ที่ผมสะสมประสบการณ์มาตลอด 30 ปีที่เป็นนักธุรกิจ ผมบอกตรง ๆ เลยว่า ผมไม่ขาย ยังไงผมก็ไม่เคยให้ แต่ผมซื้อของคุณ เพราะผมไม่อยากให้สิงคโปร์ได้ไป เพราะถ้าเกิดสิงคโปรได้ไป จะแย่งแหล่งเงินทุนของประเทศไทย เราต้องโหด เราต้องพูดจาตรงไปตรงมา บางครั้งการเจรจาก็ต้องชัดเจนในแง่ของหลักการที่เราจะสามารถทำอะไรได้ไม่ได้”
นายกฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้เดินทางไปร่วมประชุมเอเปค มีการจับไม้จับมือตบไหล่กันสวยหรู แต่ว่าข้างหลังถือมีดกันอยู่ทุกคน จีนกับสหรัฐฯ ตกลงกันชัดเจน มีอย่างเดียวตกลงกันได้ คือ ไม่กดปุ่มนิวเคลียร์ยิงใส่กัน ที่เหลือก็สู้กันตายไปข้างหนึ่งโดยเฉพาะเรื่องการค้า เพราะฉะนั้นเรื่องการย้ายฐานการผลิตที่มาเมืองไทยเพราะดำรงไว้ซึ่งความเป็นกลาง เราไม่โอนเอียงไปสหรัฐหรือจีน จีนถือว่าเป็นพี่ใหญ่ อเมริกาถือเป็นบิ๊กบอส เราไปได้กับทุกคน
ขณะเดียวกัน นายกฯ ยังบอกด้วยว่า ไทยเป็นมิตรกับไต้หวัน เป็นมิตรกับจีน เป็นมิตรกับสหรัฐฯ สหรัฐฯ เป็นเจ้าภาพที่จะแจกผลประโยชน์ว่าใครจะเป็นคนได้แต่งตั้งให้ตั้งโรงงานไมโครชิพ (Microchip) ในประเทศต่าง ๆ การมาตั้งโรงงานที่ประเทศไทย ถือว่าเป็นสารตั้งต้นที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมไฮเทคของประเทศไทยต่อไป
“การจะเชื้อเชิญให้มาต้องมีหลายมาตรการสนับสนุน เช่น อาจจะต้องให้ที่ดินฟรี อาจจะต้องให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษี เงินกินเปล่าที่เราต้องสนับสนุน 30-50% ของมูลค่าการลงทุน ถ้าเราไม่มีเราสู้อินโดนีเซียไม่ได้ สู้มาเลเซียไม่ได้ สู้เวียดนามไม่ได้ มีคนล้อเล่นว่าผมเป็นเซลล์แมน ผมยอมรับว่าผมเป็นเซลล์แมน เราต้องวิ่งสู้ฟัด ถ้าเราไม่เปิดตลาดใหม่ ๆ พึ่งแต่สหรัฐ ฯ พึ่งแต่จีนก็ไม่ได้”นายเศรษฐา กล่าว
นอกจากนี้ นายกฯ ยังบอกอีกว่า สัปดาห์หน้าจะเดินทางไปญี่ปุ่น วันนี้มีการเจรจากันไปมาก ว่าจะช่วยเรื่องการประกอบรถยนต์สันดาปอย่างไร โดยเชื่อว่ารถยนต์สันดาปในโลกนี้ยังมีต่อไป 10-15 ปีต่อไป เพราะฉะนั้นเป็นไปได้หรือไม่ ถ้าการย้ายฐานการผลิตรถยนต์สันดาปจากทั่วภูมิภาคนี้มาประกอบที่ไทย ซึ่งรัฐบาลพร้อมให้มาตรการสิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีต่อไป
