บิ๊ก 4 ค่ายรถยนต์ญี่ปุ่น ลงทุนอีวี 1.5 แสนล้าน ภายใน 5 ปี

25 ธ.ค. 2566 | 03:29 น.
อัปเดตล่าสุด :25 ธ.ค. 2566 | 03:59 น.

โฆษกรัฐบาล เผย 4 ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่น เล็ง ลงทุนอีวี ภายใน 5 ปี 1.5 แสนล้านบาท สนผลิตกระบะอีวีในอีก 2-3 ปีข้างหน้า

วันที่ 25 ธันวาคม 2566 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง มีวิสัยทัศน์และนโยบายให้ความสำคัญกับการสนับสนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย-ญี่ปุ่น รวมทั้ง ร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์เครื่องสันดาปเป็นรถยนต์ไฟฟ้า รวมทั้งสนับสนุนให้เกิดการขยายการลงทุนในไทย และขับเคลื่อนให้ไทยเป็นฐานผลิตยานยนต์ไฟฟ้าหลักในภูมิภาคอาเซียน 

นายชัยกล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้หารือกับบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น 7 ราย ครั้งเดินทางร่วมการประชุม ASEAN-Japan ระหว่างวันที่ 14-18 ธันวาคม 2566 โดยจากการหารืออย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย ระหว่างนายกฯ และบริษัทยานยนต์นี้ ทำให้ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (Thailand Board of Investment (BOI) ได้ข้อสรุปว่า

"ภายในระยะเวลา 5 ปี จะมีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่น 4 รายที่พร้อมขยายการลงทุนสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยด้วยมูลค่าการลงทุนประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ได้แก่ โตโยต้า 5 หมื่นล้านบาท ฮอนด้า 5 หมื่นล้านบาท อีซูซุ 3 หมื่นล้านบาท และมิตซูบิชิ 2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ บางบริษัทให้ความเห็นว่าจะเริ่มดำเนินการผลิตรถกระบะไฟฟ้าในช่วง 2 – 3 ปีข้างหน้า"นายชัยกล่าว

นายชัยกล่าวว่า โดยกลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นทั้ง 7 ราย ยืนยันใช้ไทยเป็นฐานการผลิตหลักในภูมิภาค พร้อมสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทย ซึ่งเป็นไปตามแนวทางของรัฐบาลไทยที่จะสนับสนุนค่ายรถยนต์ญี่ปุ่นให้สามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่เทคโนโลยียานยนต์สมัยใหม่ ลดการปล่อยคาร์บอน ใช้พลังงาน EV และไฮโดรเจน ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นยังได้นำเสนอโมเดลของการสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ (Swapping) สำหรับรถเชิงพาณิชย์ ซึ่งไทยพร้อมส่งเสริมสภาพแวดล้อมการลงทุนให้กับผู้ลงทุนจากประเทศญี่ปุ่น โดยจะดำเนินการออกมาตรการยกเว้นวีซ่าให้นักธุรกิจญี่ปุ่นที่เดินทางมาเยือนประเทศไทยเพื่อติดต่อธุรกิจระยะสั้น

“นายกรัฐมนตรีย้ำว่าบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นมีส่วนสำคัญในการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทยให้เป็นผู้นำด้านการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในระดับภูมิภาคอาเซียน ไทยจึงพร้อมสนับสนุน และร่วมมือกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์จากญี่ปุ่นที่ต้องการขยายการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าของทั้งสองประเทศ ก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านที่สำคัญนี้สู่ความสำเร็จ และประโยชน์ร่วมกันของทั้งสองประเทศ”นายชัยกล่าว