"BOI"ชี้โครงสร้างพื้นฐาน-พลังงานสะอาดหนุนนักลงทุนเข้าไทย

นายวิรัตน์ อัชศฤงคารสกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ (BOI) เปิดเผยในงานสัมนา "GEOPOLITICS 2024" จุดปะทุสงครามใหญ่ พลิกวิกฤติโลก สู่โอกาสประเทศไทย ซึ่งจัดโดยหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ว่า ปัจจัยที่จะทำให้นักลงทุนมีการย้ายการลงทุนเข้ามาในประเทศไทย แม้ว่าปัจจุบันไทยจะมีข้อได้เปรียบลดลงในส่วนของค่าแรงขั้นต่ำ เนื่องจากเวียดนามมีแรงงานที่มีค่าแรงต่ำกว่า

อย่างไรก็ดี ไทยยังมีข้อได้เปรียบในหลายด้าน เช่น เรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน แรงงานที่มีทักษะเฉพาะ และมีพลังงานสะอาดที่หลายอุตสาหกรรมเป็นที่ต้องการ ทำให้เกิดโอกาสทางเศรษฐกิจที่สามารถดึงการลงทุนในสาขาที่ต้องมีการผลิตโดยใช้พลังงานสะอาดในการลงทุน

ด้านการสนับสนุนให้นักลงทุนไทยไปลงทุนในต่างประเทศนั้นบีโอไอมีกิจกรรมต่อเนื่องมาหลายปีในการพาผู้ประกอบการไทยไปดูลู่ทางการลงทุนในต่างประเทศ ทั้งในเวียดนาม เมียนมา และอินโดนิเซีย ซึ่งนักลงทุนสามารถติดต่อขอข้อมูลการลงทุนจากสำนักงานบีโอไอได้

ทั้งนี้ สถานการณ์ความขัดแย้งเรื่อง Geopolitics ทำให้เกิดการย้ายฐานของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยในช่วง 1–2 ปีที่ผ่านมาการลงทุนของนักลงทุนจากประเทศจีนเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นจนมีสัดส่วน 20–30% ซึ่งแนวโน้มในปี 2567 ก็จะยังมีการลงทุนจากจีนและไต้หวันเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจาก 2 ปีที่ผ่านมา
 

ขณะที่ในส่วนของนักลงทุนประเทศอื่นๆที่ยังเข้ามาลงทุนในไทยก็ยังมีสัดส่วนที่คงที่ เช่น นักลงทุนญี่ปุ่นก็ไม่ได้ลดการลงทุนลงไป แต่ในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตขึ้นของการลงทุนเติบโตมาก เช่นยานยนต์ไฟฟ้า หรืออีวี (EV) ,อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ และเซมิคอนดักเตอร์ ถือเป็นอุตสาหกรรมที่มีนักลงทุนจากจีนขอส่งเสริมการลงทุนเข้ามามากกว่าทำให้สัดส่วนการลงทุนของนักลงทุนจากจีน และไต้หวันเพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม 2 ปีที่ผ่านมาการลงทุนของจีนคิดเป็น 20–30% ของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ซึ่งในปีนี้ก็จะยังมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นอีก โดยปัจจัยเรื่องของ Geopolitics เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง