สคร.เชื่อ “การบินไทย” กลับเข้าเทรดปี 68 ชี้ไม่ดึงกลับเป็นรัฐวิสาหกิจ

05 ก.พ. 2567 | 04:51 น.
อัปเดตล่าสุด :05 ก.พ. 2567 | 04:51 น.

สคร.เชื่อ “การบินไทย” กลับเข้าเทรดปี 68 หลังปรับแผนธุรกิจ ชี้คลังคงสัดส่วนถือหุ้น 49% ไม่ดึงกลับเป็นรัฐวิสาหกิจ

นายธิบดี วัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาพคล่องของบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI กลับมาดีขึ้น คาดว่าการดำเนินธุรกิจเป็นไปตามแผนฟื้นฟูกิจการที่วางเป้าหมายไว้ว่าในปี 2568 นั้น การบินไทยจะกลับเข้าไปซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ได้ ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขกำไร 12 เดือน ต้องมีมูลค่าเกิน 20,000 ล้านบาท และมีเงินทุนเป็นบวก 

“ยืนยันว่า การดำเนินงานภายใต้แผนฟื้นฟูของการบินไทยจะเป็นไปตามแผน และกระทรวงการคลังมีนโยบายให้สถานะของการบินไทยหลุดจากการเป็นรัฐวิสาหกิจเลย ไม่มีแผนนำกลับมา โดยกระทรวงการคลังจะคงสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 49% ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่”

ส่วนสาเหตุที่สภาพคล่องของการบินไทยดีขึ้น เนื่องจากได้ปรับแผนการดำเนินธุรกิจ เปลี่ยนจากการซื้อเครื่องบิน เป็นการเช่า อีกทั้ง ที่ผ่านมายังได้ปรับลดจำนวนพนักงานลง จึงทำให้ค่าใช้จ่ายเรื่องการดูแลพนักงานลดลงด้วย 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงกว่า 2 ปีของความพยายามฟื้นฟูกิจการของการบินไทย ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด จนไม่สามารถบินได้ตามปกติ ทำให้มีภาระหนี้สินกว่า 2 แสนล้านบาท โดยการบินไทยได้ดำเนินการตามแผนฟื้นฟูกิจการที่ศาลล้มละลายกลางมีคำสั่งเห็นชอบอย่างเคร่งครัด

ไม่ว่าจะเป็นการหารายได้จากแหล่งอื่นนอกจากรายได้จากผู้โดยสาร เช่น การเพิ่มรายได้จากฝ่ายครัวของการบินไทย ,รายได้จากการขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ การลดค่าใช้จ่าย และการจำหน่ายสินทรัพย์รองที่ไม่อยู่ในแผนธุรกิจของบริษัท เพื่อรักษาสภาพคล่องสำหรับการดำรงกิจการให้ผ่านพ้นวิกฤติ  จนบริษัทสามารถมีกำไรได้ 

โดยไตรมาสที่สองของปี 2566 บริษัทมีกำไรสูงสุดในรอบ 20 ปี  โดยบริษัทมีกำไรเกือบ 2,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 171% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 และบริษัทคาดว่าจะสามารถออกจากแผนฟื้นฟูฯได้ ในไตรมาส 4 ของปีนี้