กรณีที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบการกำหนดให้วันที่ 12 เมษายน 2567 เป็น วันหยุดราชการ เพิ่มเป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2567 (เพิ่มเติม) ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ เพื่อเป็นการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ นั้น
ล่าสุด สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ได้ทำหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับทราบมติครม. ทั้ง รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงและกรมต่าง ๆ รวมถึงผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยระบุเนื้อหาสำคัญของการเพิ่มวันหยุดราชการ เป็นกรณีพิเศษ ประจำปี 2567 ให้วันที่ 12 เมษายน 2567 ดังนี้
1.เห็นชอบการกำหนดให้วันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2567 เป็นวันหยุดราชการ เพิ่มเป็นกรณีพิเศษ อีก 1 วัน ในปี 2567
2.ในกรณีที่หน่วยงานใดมีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็น หรือราชการสำคัญ ในวันหยุดดังกล่าวที่ได้กำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนแล้ว ซึ่งหากยกเลิกหรือเลื่อนไปจะเกิดความเสียหาย หรือกระทบต่อการให้บริการประชาชน ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน
3.ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงแรงงานพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการกำหนดให้วันดังกล่าวข้างต้น เป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้อง แล้วแต่กรณีต่อไป
4.ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกระทรวงวัฒนธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยว กิจกรรมการท่องเที่ยวที่น่าสนใจของเมืองรองต่าง ๆ แต่ละจังหวัด (55 จังหวัด ใน 5 ภูมิภาค) เพื่อให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติเดินทางไปท่องเที่ยว เมืองรองเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้การกำหนดให้วันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2567 เป็นวันหยุดราชการ ประจำปี 2567 เพิ่มเป็นกรณีพิเศษดังกล่าว จะทำให้ภาพรวมวันหยุดราชการประจำปี 2567 มีจำนวนวันหยุดรวมทั้งสิ้น 21 วัน
โดย สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี พิจารณาแล้วเห็นว่า การกำหนดให้วันศุกร์ที่ 12 เมษายน 2567 เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก 1 วัน ในปี 2567 เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งจะช่วยให้เกิดการกระจายตัวในการเดินทางของประชาชนเพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัดในช่วงเวลาดังกล่าว
อีกทั้งยังส่งผลดีต่อภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ นอกจากนี้ การที่คณะรัฐมนตรีมีมติกำหนดวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษล่วงหน้าจะช่วยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานอื่นของรัฐ รวมทั้งภาคเอกชนสามารถวางแผนการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องล่วงหน้าได้อย่างเหมาะสมต่อไป