นางจินดารัตน์ วิริยะทวีกุล ที่ปรึกษาด้านหนี้สาธารณะ ในฐานะโฆษกสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.ยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการออกพันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ (Foreign currency bond) ตามนโยบายรัฐบาล กรอบวงเงินอยู่ที่ 500-1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 17,500-35,000 ล้านบาท)
ทั้งนี้ คาดว่าจะศึกษาเสร็จภายในเดือนมี.ค.67 นี้ และจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการคลังต่อไป โดยจุดประสงค์จะนำไปลงทุนในโครงการที่เป็นการดูแลสิ่งแวดล้อม รับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (ESG)
“สบน.กำลังศึกษาว่า ถึงเวลาที่ควรออก พันธบัตรสกุลเงินตราต่างประเทศ แล้วหรือไม่ ข้อดี คือ จะเป็นตัวที่ช่วยบริหารความเสี่ยงการแย่งเงินทุนของรัฐบาล และเอกชนลดลง เพราะจะได้ไม่มีตลาดแค่ในประเทศอย่างเดียว ฉะนั้น การที่ออกไปสู่ตลาดต่างประเทศก็จะช่วยขยายและหาตลาดการกู้เงินได้เยอะขึ้น และที่สำคัญ คือ การสร้างดอกเบี้ยอ้างอิงในกับภาคเอกชน เนื่องจากเราไม่ได้ออกพันธบัตรสกุลในต่างประเทศมานานมาก”
อย่างไรก็ตาม ในส่วนข้อเสีย คือ ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยในต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยของต่างประเทศ ทำให้การออกไปตลาดข้างนอกจะเพิ่มต้นทุนกว่าการกู้ในประเทศ อาทิ พันธบัตรอายุ 10 ปีในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา อยู่ที่ 4.6 % ขณะที่ในประเทศอยู่ที่เพียง 2.5 % เท่านั้น
ขณะเดียวกัน ในมุมคนทำงานเองก็เสี่ยง เพราะประเทศไทยไม่ได้ออกมานานเกือบ 20 ปี โดยล่าสุด ไทยเคยออกพันธบัตรสกุลเงินดอลลาร์ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว และพันธบัตรซามูไร คือสกุลเงินเยน ของญี่ปุ่น เมื่อ 16 ปีที่แล้ว