เปิด 5 กับดักใหญ่ "สหกรณ์ครูปทุมธานี" ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 4.75% ไม่ได้

01 มี.ค. 2567 | 09:40 น.
อัปเดตล่าสุด :01 มี.ค. 2567 | 10:27 น.

สหกรณ์ครู ปทุมธานี ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 4.75% ไม่ได้ เพราะติดกับดัก 5 เรื่องใหญ่ ด้านการบริหาร ทำให้มีหนี้สูญคงค้างหลายร้อยล้านบาท

นายสำเริง ทองมอญ ประธานกรรมการ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี จำกัด เปิดเผยว่า ตนและคณะ เข้ามาบริหารงานสหกรณ์แห่งนี้ ในช่วงปี 2554 ซึ่งขณะนั้นมีสหกรณ์มีปัญหาเข้าขั้นวิกฤติ เปรียบเสมือนเจอกับดัก 5 เรื่องใหญ่ ได้แก่

  1. ความเสียหายที่เกิดจากสลากกินแบ่งรัฐบาล 296 ล้านบาท ที่ต้องนำมาตั้งเป็นหนี้สูญ แต่ก็มีการเจรจาจนจบได้เป็นที่เรียบร้อย
  2. ความเสียหายจากการนำเงินไปฝากสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น 1,000 ล้านบาท โดยสามารถตามกลับมาได้ 200 ล้านบาท ขาดอีก 800 ล้านบาท อยู่ระหว่างการฟ้องร้องดำเนินคดี จากนั้นสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่นเข้าสู่แผนฟื้นฟูกิจการทำให้ยังไม่ได้รับเงินคืน
  3. ช่วงปี 2554 สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี มีการปล่อยกู้ 1,800 สัญญา เกือบ 2,000 ล้านบาท กู้คนละ 1-5 ล้าน แต่ในสัญญาระบุให้สมาชิกส่งเงินต้นเพียง 2,000 บาท ทำให้ระยะเวลาใช้คืนตั้งแต่ 50 ปี จนถึง 200 ปี โดยกรรมการชุดใหม่ แก้ปัญหาด้วยการแก้ไขระเบียบให้สมาชิกคืนเงินภายใน 10 ปี กู้ได้ไม่เกิน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยไม่สามารถลดได้ ซึ่งมีเงินต้นกลับมาได้เพียง 1.9 ล้านบาท 
  4. การนำเงินไปฝากที่สหกรณ์การเกษตรหลายแห่ง ความเสียหายกว่า 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่ได้เงินกลับมา มีการฟ้องร้องเกิดขึ้นแต่ยังไม่คืบหน้า กลายเป็นหนี้สูญเช่นกัน
  5. กรรมการเดิม ทิ้งคดีไว้ 100 คดี ฟ้องร้องแล้วราว 50 คดี ที่เหลือไม่มีการติดตาม และปล่อยหมดอายุความ รวมถึงมีสัญญาที่ปล่อยทิ้งไว้หมดอายุความราว 100 สัญญา และมีสัญญาที่ยังไม่หมดอายุความอีกเกือบ 100 สัญญา ซึ่งต้องไปคอยติดตาม เป็นหนี้สงสัยจะเป็นหนี้สูญอีก 300 กว่าล้านบาท ก็ติดตามหนี้ที่สัญญาไม่หมดอายุความ

“เงินทุนของเราคือเงินกู้จากธนาคาร ขณะนั้นมี 2,000 ล้านบาท เมื่อเกิดวิกฤติระเบิด 5 ลูกข้างต้น ทำให้ไม่สามารถส่งหนี้ธนาคารได้ ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และสมาชิกแห่ถอนเงินออก เพราะเกิดความไม่มั่นใจ ทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนเงินทุนอย่างหนัก“

สำหรับการแก้ปัญหาทั้งหมด จุดเริ่มต้นคือการเฟ้นหากรรมการสหกรณ์ชุดใหม่ที่มีความสามารถ และไม่มีประวัติเสียแม้แต่เรื่องเดียวเพื่อสร้างความเชื่อมั่น จากนั้นเริ่มแก้ปัญหาขาดแหล่งเงินทุนก่อน ด้วยการเปิดตัวโครงการรับรองเงินฝาก และให้ดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี จนเริ่มมีเงินไหลกลับเข้ามาจากทุนที่เหลือราว 600 ล้านบาท จนถึงมาได้หลายเท่าตัวในเวลาไม่กี่ปี และต่อมาคือการนำเงินไปใช้หนี้จนหมด จากนั้นจึงเริ่มดำเนินการฟื้นฟูสหกรณ์

“หลังจากแก้ไขปัญหาต่าง ๆ แล้ว เราก็ค่อย ๆ พัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเงิน เพื่อระดมเงินฝากให้เพิ่มขึ้นจนถึงระดับเกือบ 5 พันล้านบาท และจะพยายามควบคุมเพื่อไม่ให้เกินนี้ เพราะไม่ต้องการเป็นสหกรณ์ขนาดใหญ่ เพื่อความตล่องตัว"

ในช่วงต่อมา หลังจากแก้ปัญหาหนี้ธนาคารได้แล้ว แต่ดอกเบี้ยเงินกู้ยังอยู่ในระดับสูงจากโครงการรับรองเงินฝากที่มีอัตราดอกเบี้ย 3.5% ต่อปี ซึ่งส่วนนี้ สหกรณ์ได้ทำความเข้าใจกับผู้กู้ว่า ยังไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ในทันที เพราะหากจะลด ต้องไปลดดอกเบี้ยเงินฝากด้วย ก็จะทำให้สมาชิกอาจเกิดความตื่นตระหนก ก็ต้องบริหารจัดการในระยะต่อไป ค่อย ๆ ปรับดอกเบี้ยลง ทำให้ไม่สามารถลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ได้ที่ 4.75% ต่อปี 

นอกจากนี้ สหกรณ์ยังดำเนินการลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น เช่น สวัสดิการของสมาชิกในกรณีเสียชีวิต ไปจนถึงการลดค่าใช้ช่ายการบริหารงานจากเดิม 78 ล้านบาทต่อปี ลงเหลือราว 30 กว่าล้านบาท ทั้งนี้ที่ต้องประหยัด เพราะสหกรณ์มีการตั้งค่าหนี้สูญ 600 กว่าล้านบาท ยาวเป็นระยะเวลา 10 ปี จากการประสบภาวะวิกฤติระเบิด 5 ลูกที่กล่าวไป และภายใต้การบริหารของทีมใหม่สามารถทำกำไรได้ที่ 69.25 ล้านบาท

ณ วันนี้ปล่อยเงินกู้ 3,500 ล้านบาท ถ้าปล่อยที่อัตราดอกเบี้ย 7% จะสร้างรายได้ราว 245 ล้านบาท แต่ถ้าลดดอกเบี้ยลงเหบือ 4.75% จะสร้างรายได้ราว 166 ล้านบาท ส่วนต้นทุนการบริหารราว 70-80 ล้านบาท ดังนั้นกำไรจะหายไปทันที ทำให้จ่ายปันผล และจ่ายหนี้ไม่ได้ตามกำหนด จึงยังไม่สามารถลดดอกเบี้ยได้ และคงอยู่ในระดับ 7% ต่อปี

ข้อมูลสหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี

  • เป็นสหกรณ์ขนาดเล็ก
  • มีสินทรัพย์อยู่ที่ 4,541 ล้านบาท

 

อัตราต้นทุนทางการเงิน

ทุนเรือนหุ้น

  • มูลค่า 2,100 ล้านบาท
  • 46.25% ของเงินทุนรวม
  • ต้นทุน (ปันผล) 4.5% 

 

เงินฝาก 2,000 ล้านบาท (44.03% ของเงินทุนรวม)

  • ออมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ย 0.75% ต่อปี มูลค่า 450 ล้านบาท
  • ออมทรัพย์ อัตราดอกเบี้ย 2.5% ต่อปี มูลค่า 1,500 ล้านบาท
  • ออมทรัพย์พิเศษ 24 เดือน อัตราดอกเบี้ย 3% ต่อปี มูบค่า 50 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมี ทุนสำรองอีก 345 ล้านบาท และทุนสะสมอีก 96 ล้านบาท