ราคาหมูหน้าฟาร์ม หด 10.2% กระทบรายได้เกษตรกร

31 มี.ค. 2567 | 02:44 น.
อัปเดตล่าสุด :31 มี.ค. 2567 | 02:49 น.

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงาน ปี 2567 คาดว่า ราคาหมูหน้าฟาร์ม ปรับตัวลดลง 10.2% ส่งผลต่อราคาขายปลีกเนื้อหมูโดยเฉลี่ยในประเทศน่าจะยังลดลง กระทบรายได้เกษตรกร

KEY

POINTS

  • ทิศทางราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลกปรับลง ส่งผลให้ราคาสุกรในกลุ่มผู้ผลิตรายสาคัญของโลกปรับลดลง ไม่ว่าจะเป็นจีน บราซิล เดนมาร์ก
  • ขณะที่ไทย แม้ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสุกรจะปรับลดลงตาม แต่ปริมาณการ ผลิตสุกรยังกลับมาไม่เต็มที่ เนื่องงจากราคาสุกรหน้าฟาร์มไม่จูงใจ และต้นทุนอื่นๆ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยรายงาน ‘ปี 2567 คาดราคาสุกรหน้าฟาร์มยังหดตัว 10.2% จากปีก่อนกดดันต่อการผลิตสุกรในประเทศ (กระแสทรรศน์ ฉบับที่ 3476)’ โดยมีรายละเอียดว่า ต้นทุนการผลิตสุกรโลกมีแนวโน้มปรับลดลง ตามทิศทางราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ 

โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ส่งผลให้ราคาสุกรในกลุ่มผู้ผลิตรายสาคัญของโลกมี แนวโน้ม ปรับลดลง ไม่ว่าจะเป็นจีน บราซิล เดนมาร์ก สะท้อนได้จากราคาสุกร เฉลี่ยในกลุ่มประเทศดังกล่าว ในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 ปรับลดลงราว 4% เมื่อ เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน

สำหรับไทย ต้นทุนวัตถุดิบในการผลิตสุกรมีแนวโน้มปรับลดลงตามราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ในตลาดโลก โดยเฉพาะข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ข้าวสาลีและปลาป่น ช่วยบรรเทาแรงกดดันต่อการผลิตสุกรลง

อย่างไรก็ตามปริมาณการผลิตสุกรยังกลับมาไม่เต็มที่ สะท้อนจากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ที่ระบุว่า ในปี 2566  ปริมาณผลผลิตสุกรอยู่ที่ 17.5 ล้านตัว แม้จะเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ที่ปริมาณ 15.8 ล้านตัว แต่ปริมาณผลผลิตกลับไม่เข้าสู่ภาวะปกติก่อนเกิดโรคระบาด (ASF) ซึ่งเฉลี่ยจะอยู่ที่ 21-22 ล้านตัว โดยมีสาเหตุหลักมาจาก 

  • ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์มยังอยู่ในระดับต่ำ ไม่จูงใจต่อการเพิ่มผลผลิตสุกร โดยในช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567  ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์มอยู่ที่  66 บาท/กก. หดตัว 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งปัจจัยดังกล่าวส่งผลต่อเนื่องมายังราคาขายปลีกเนื้อหมูเฉลี่ยในประเทศ ให้ยังคงปรับลดลงตาม โดยมีระดับราคาอยู่ที่ 164 บาท/กก. หดตัว 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
  • ต้นทุนการผลิตสุกรอื่นๆมีแนวโน้มปรับขึ้นได้อีก อาทิ ค่าขนส่ง ค่าไฟฟ้า และค่าแรงงาน เป็นต้น 

ด้วยต้นทนุการผลิตสุกรที่ยีงคงมีความผันผวน ขณะที่ราคาขายสุกรยังอยู่ในระดับต่ำ จึงไม่จูงใจต่อการเพิ่มปริมาณผลผลิตสุกรของเกษตรกร สะท้อนจากข้อมูลของสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร ที่ระบุว่า ในปี 2566 ต้นทุนการผลิตสุกรอยู่ที่ 87.5 บาท/กก. ขณะที่ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์มอยู่ที่ 78 บาท/กก. ส่งผลให้ผลตอบแทนสุทธิของเกษตรกรขาดทุนราว 9.5 บาท/กก. 

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า ในปี 2567 ราคาสุกรที่เกษตรกรขายได้หน้าฟาร์มอาจอยู่ที่ 70 บาท/กก. หดตัว 10.2% เมื่อเทียบกับปีก่อนที่ 78 บาท/กก. ซึ่งจะส่งผลต่อเนื่องให้คาดว่าราคาขายปลีกเนื้อหมูโดยเฉลี่ยในประเทศน่าจะยังลดลง โดยอาจอยู่ที่ 166 บาท/กก. หดตัว 6.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน ที่ 177 บาท/กก.

โดยสถานการณ์ข้างต้นจึงกระทบทิศทางการผลิตสุกรในประเทศ โดยเฉพาะการกลับมาเลี้ยงสุกรของเกษตรกรรายย่อย ซึ่งเป็นโจทย์ที่ทุกฝ่ายยังคงต้องร่วมกันยกระดับราคา และสร้างกลไกที่สนับสนุนความสามารถในการแข่งขันของการผลิตสุกรอย่างยั่งยืน