นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อซักถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี ว่า กรณีมีประเด็นเป็นห่วงการอภิปรายที่ใช้คำพูดค่อนข้างแรง เช่น “เรื่องของเศรษฐีไหน จะโง่มาลงทุน”
เรียนว่านายกรัฐมนตรี แม้จะห่วงใยเรื่องท่านเดินทางไปต่างประเทศ ไปแสวงหาเม็ดเงินลงทุน แสวงหาพันธมิตร แสดงจุดยืนว่าเมืองไทยต้องการเม็ดเงินลงทุนอีกครั้ง ในฐานะ รมช.คลัง เรียนว่า สิ่งที่นายกฯ ดำเนินไปได้รับสัญญาณในทางบวกจากผู้ลงทุน และนานาชาติ
“ยอมรับว่า กระบวนการลงทุนลักษณะนี้ เม็ดเงิน 1 แสนล้านบาท ไม่มีใครตัดสินใจได้ในวันเดียว กระบวนการหลังจากสนใจแล้วก็ต้องมีการติดตามพูดคุย เจรจาต่อเนื่อง โดยคณะรัฐมนตรีแต่ละท่านได้เดินทางไปต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อติดตามเรื่องที่นายกเจรจาไว้ และได้รับสัญญาณเชิงบวกเช่นเดียวกัน”
นายจุลพันธ์ กล่าวว่า วันนี้ตัวเลขการลงทุนสัญญาณเริ่มมาเรื่อยๆ ด้วยที่ตั้งประเทศไทย แรงงานมีแรงจูงใจ และมีศักยภาพไปขายให้เกิดเม็ดเงินลงทุนในอนาคต เราจะได้เห็น “สึนามิ” การลงทุนประเทศไทยในช่วง 1-2 ปีข้างหน้า จากการลงทุนของต่างชาติที่เข้ามา มีการสร้างเงิน สร้างงาน สร้างอาชีพ และมีการถ่ายโอนความรู้เทคโนโลยี เพื่อให้คนไทยมีความรู้ตามโลกที่เปลี่ยนแปลง
ส่วนสายงานการบังคับบัญชา ซึ่งมีข้อห่วงใยว่าประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีแล้ว และยังมีการสั่งงานผ่านท่านใดอีกหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า ผมในฐานะที่เป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรี ผมสามารถพูดแทนได้เลยว่าสิ่งนี้เป็นจินตนาการของท่านเอง ประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีหนึ่งท่าน คือ นายเศรษฐา ทวีสิน และการดำเนินงานของพวกเราขึ้นตรงกับนายกฯ ขับเคลื่อนโดยนโยบายของรัฐบาล เป็นไปตามกฎหมายทุกประการ
ส่วนเรื่องดิจิทัล วอลเล็ตนั้น ยืนยันว่า 10 เม.ย.นี้ มีข่าวดีให้กับประชาชนคนไทยทุกคนแน่นอน