เมื่อวันที่ ๒ มษายน ๒๕๖๗ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ที่ ๔/๒๕๖๗ เรื่อง มาตรการกระตุ้นการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ
อนุสนธิประกาศคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ที่ ๘/๒๕๖๕ ลงวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๕ เรื่อง นโยบายและหลักเกณฑ์การส่งเสริมการลงทุน
เพื่อกระตุ้นให้โครงการขนาดใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายเร่งการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจโดยเร็ว อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๖ มาตรา ๑๘ และมาตรา ๓๕ แห่งพระราชบัญญัติส่งเสริมการลงทุน พ.ศ. ๒๕๒๐ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน จึงออกประกาศ ดังนี้
ข้อ ๑ กําหนดให้พื้นที่ทุกจังหวัดเป็นเขตส่งเสริมการลงทุน ข้อ ๒ เงื่อนไข
๒.๑ ต้องเป็นกิจการในกลุ่ม A1 A2 A3 และ A4 ยกเว้น
(๑) ประเภทกิจการที่ไม่มีที่ตั้งสถานประกอบการชัดเจน เช่น กิจการขนส่งทางอากาศ กิจการขนส่งทางเรือ เป็นต้น ตามที่สํานักงานกําหนด
(๒) ประเภทกิจการที่กําหนดเงื่อนไขให้ทั้งในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้หรือ เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษชายแดนเท่านั้น
๒.๒ ต้องเป็นโครงการที่ได้รับสิทธิและประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนต่าง ๆ รวมกันแล้วไม่เกิน 4 ปี
๒.๓ ต้องมีการลงทุนจริงไม่น้อยกว่า ๑,๐๐๐ ล้านบาท โดยไม่รวมค่าที่ดินและ ทุนหมุนเวียน ภายใน ๑๒ เดือน นับจากวันออกบัตรส่งเสริม
๒.๔ จะไม่อนุญาตให้ขยายเวลาตอบรับการส่งเสริมและส่งหลักฐานการออกบัตรส่งเสริมทั้งนี้ จะพิจารณาขยายเวลานําเข้าเครื่องจักรและเปิดดําเนินการตามความเหมาะสม
๒.๕ ต้องยื่นหลักฐานการลงทุนจริงเพื่อขอรับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมตามแบบที่ สํานักงานกําหนดภายใน ๑๘ เดือน นับจากวันออกบัตรส่งเสริม ทั้งนี้ จะพิจารณาขยายเวลายื่นหลักฐาน การลงทุนจริงเพื่อขอรับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม
โดยในวันที่ยื่นขอรับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมต้องมีสิทธิและประโยชน์การยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลเหลืออยู่ทั้งระยะเวลาและวงเงินที่ได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อ ๓ สิทธิและประโยชน์เพิ่มเติม
ให้ได้รับลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลสําหรับกําไรสุทธิที่ได้จากการลงทุนในอัตราร้อยละ ๕๐ ของอัตราปกติ เป็นระยะเวลา ๕ ปี นับจากวันสิ้นสุดระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคล
ข้อ ๔ มาตรการนี้ใช้กับโครงการที่ยื่นคําขอรับการส่งเสริมตั้งแต่วันที่ ๒ มกราคม ๒๕๖๗ ถึงวันทําการสุดท้ายของปี ๒๕๖๗
ข้อ ๕ มอบอํานาจให้สํานักงานกระทําการแทนในการพิจารณาอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้แก้ไขโครงการเพื่อขอรับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมสําหรับโครงการทุกขนาดการลงทุนตามมาตรการนี้ รวมถึงการพิจารณาขยายเวลายื่นหลักฐานการลงทุนจริง เพื่อขอรับสิทธิและประโยชน์เพิ่มเติมได้ตามความเหมาะสม
ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ประกาศ ณ วันที่ ๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗
ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี
ประธานกรรมการส่งเสริมการลงทุน