วันนี้ (11 เมษายน 2567) นางสาวสุวรรณี วังกานต์ รองผู้อำนวยการสำนักงานสถิติแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำนักงานสถิติแห่งชาติ ได้เก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับรายได้ ค่าใช้จ่าย ภาวะหนี้สิน และทรัพย์สินของครัวเรือน รวมทั้งลักษณะที่อยู่อาศัย จากครัวเรือนตัวอย่างในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งในเขตเทศบาลและนอกเขตเทศบาล
ทั้งนี้จากผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน พ.ศ. 2566 ทำให้เห็นถึงภาพรวมสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน ในปี 2566 พบว่า รายได้และค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นเฉลี่ยต่อเดือนของครัวเรือน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้น มีแนวโน้มลดลง และเมื่อพิจารณาในแต่ละประเด็นสำคัญ ได้ผลสรุป ดังนี้
ครัวเรือนทั่วประเทศมีรายได้ทั้งสิ้นเฉลี่ยเดือนละ 29,030 บาท โดย 70.5% เป็นรายได้จากการทำงาน ซึ่งได้แก่ ค่าจ้างและเงินเดือน กำไรสุทธิจากการทำธุรกิจและการเกษตร ส่วน 14.5% เป็นรายได้ที่ไม่เป็นตัวเงินซึ่งอยู่ในรูปสวัสดิการ/สินค้าบริการที่ได้รับมาโดยไม่ต้องซื้อ
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น พบว่าครัวเรือนมีการใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 23,695 บาท โดยเป็นค่าใช้จ่ายอุปโภคบริโภคสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อาหาร/เครื่องดื่ม/ยาสูบ 35.3% ที่อยู่อาศัย/เครื่องใช้ในบ้าน 21.9% และยานพาหนะ/การเดินทาง 16% ส่วนค่าใช้จ่ายที่ไม่เกี่ยวกับการอุปโภคบริโภค เช่น ภาษี เบี้ยประกันภัยเพียง 12.9%
ทั้งนี้เมื่อพิจารณาในส่วนของหนี้สิน พบว่ามีหนี้สินเฉลี่ยต่อครัวเรือนทั้งสิ้น 197,255 บาท แยกเป็น
1.เป็นหนี้สินที่ใช้ในครัวเรือน คิดเป็นสัดส่วน 77.7% หรือเป็นเงิน 153,285 บาทต่อครัวเรือน ประกอบด้วย
2.หนี้สินที่ใช้ในการลงทุนและอื่น ๆ คิดเป็นสัดส่วน 22.3% หรือเป็นเงิน 43,970 บาทต่อครัวเรือน ประกอบด้วย