เว็บไซต์กรมสรรพากร รวบรวม 9 คำถามที่พบบ่อย เพื่อเคลียร์ข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิจ้างงานผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป เพื่อให้บริษัทเอกชนนำไปประกอบการตัดสินใจในการรับผู้สูงอายุเข้ามาทำงาน
โดยรายละเอียดของการใช้สิทธิจ้างงานผู้สูงอายุทั้ง 9 ข้อ มีดังนี้
รายจ่ายที่เป็น เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์ที่คำนวณได้เป็นเงิน ภาษีอากรที่ผู้จ่ายออกแทนให้ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงานซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร เงินที่จ่ายสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
แต่ไม่รวมถึง รายจ่ายที่ต้องจ่ายตามที่กฎหมายกำหนดขึ้น เช่น เงินที่จ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
4.ค่าจ้างงานผู้สูงอายุรายที่เกิน 15,000 บาท ต่อเดือน จะสามารถใช้สิทธิส่วนที่ไม่เกิน 15,000 บาท ได้หรือไม่ เช่น บริษัทจ้างผู้สูงอายุ 16,000 บาท จะใช้สิทธิหักค่าใช้จ่าย 2 เท่าสำหรับ 15,000 บาท ได้หรือไม่
ไม่สามารถนำรายจ่ายจากการจ้างงานผู้สูงอายุรายที่จ้างเกิน 15,000 บาทต่อเดือน มาใช้สิทธิ หักเป็นรายจ่าย 2 เท่าได้ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 เช่น บริษัทมีลูกจ้างผู้สูงอายุ 2 ราย
5. ผู้สูงอายุเป็นลูกจ้างมากกว่า 1 แห่ง บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560
6. หากรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สูงอายุเกิน 15,000 บาท เพียงบางเดือน บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 ในเดือนที่ไม่เกิน 15,000 บาท ได้หรือไม่
7. ลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะนำมาเป็นฐานในการคำนวณหาจำนวนลูกจ้างผู้สูงอายุที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 นั้น ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือไม่
8.คำว่า “ที่ทำงานเต็มเดือนในแต่ละเดือน” ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 290) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 มีความหมายว่าอย่างไร
9. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ(ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 จะต้องจัดทำรายงานใดบ้าง
ที่มาข้อมูล : กรมสรรพากร