เงื่อนไขจ้างงานผู้สูงอายุ ได้สิทธิ์เว้นภาษีเงินได้-หักค่าใช้จ่าย 2 เท่า

23 เม.ย. 2567 | 17:33 น.

กรมสรรพากร เคลียร์ชัด 9 เรื่อง เงื่อนไข-คุณสมบัติ เมื่อบริษัทจ้างงานผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ได้รับสิทธิ์ "ยกเว้นภาษีเงินได้-ใช้สิทธิหักค่าใช้จ่าย 2 เท่า"

เว็บไซต์กรมสรรพากร รวบรวม 9 คำถามที่พบบ่อย เพื่อเคลียร์ข้อสงสัยเกี่ยวกับการใช้สิทธิจ้างงานผู้สูงอายุ ที่มีอายุ 60 ปี ขึ้นไป เพื่อให้บริษัทเอกชนนำไปประกอบการตัดสินใจในการรับผู้สูงอายุเข้ามาทำงาน

โดยรายละเอียดของการใช้สิทธิจ้างงานผู้สูงอายุทั้ง 9 ข้อ มีดังนี้ 

 

1.ใครสามารถใช้สิทธิประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 นี้ได้บ้าง

  • บริษัท หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ซึ่งรับผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปเข้าทำงาน โดยมีรายจ่ายเพื่อการจ้างงานไม่เกิน 15,000 บาท ต่อเดือนในแต่ละราย
  • ทั้งนี้ เฉพาะการจ้างผู้สูงอายุในส่วนที่ไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น

2.คุณสมบัติของลูกจ้างผู้สูงอายุ

  1. เป็นผู้มีสัญชาติไทย
  2. มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
  3. เป็นลูกจ้างของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ้างก่อนแล้ว หรือเป็นผู้สูงอายุที่ขึ้นทะเบียนกับกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน
  4. ไม่เป็นและไม่เคยเป็นกรรมการหรือผู้ถือหุ้นของบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จ้างงานผู้สูงอายุดังกล่าว หรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลในเครือเดียวกัน


3.รายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สูงอายุได้แก่รายจ่ายใด

รายจ่ายที่เป็น เงิน ทรัพย์สิน ประโยชน์ที่คำนวณได้เป็นเงิน ภาษีอากรที่ผู้จ่ายออกแทนให้ บรรดาที่ได้เนื่องจากการจ้างแรงงานซึ่งเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร เงินที่จ่ายสมทบเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

แต่ไม่รวมถึง รายจ่ายที่ต้องจ่ายตามที่กฎหมายกำหนดขึ้น เช่น เงินที่จ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม กองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ

4.ค่าจ้างงานผู้สูงอายุรายที่เกิน 15,000 บาท ต่อเดือน จะสามารถใช้สิทธิส่วนที่ไม่เกิน 15,000 บาท ได้หรือไม่ เช่น บริษัทจ้างผู้สูงอายุ 16,000 บาท จะใช้สิทธิหักค่าใช้จ่าย 2 เท่าสำหรับ 15,000 บาท ได้หรือไม่


ไม่สามารถนำรายจ่ายจากการจ้างงานผู้สูงอายุรายที่จ้างเกิน 15,000 บาทต่อเดือน มาใช้สิทธิ หักเป็นรายจ่าย 2 เท่าได้ ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 เช่น บริษัทมีลูกจ้างผู้สูงอายุ 2 ราย

  • รายที่ 1 ค่าจ้าง 15,000 บาท บริษัทสามารถใช้สิทธิหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าดังนั้น หักรายจ่ายได้ 30,000 บาท
  • รายที่ 2 ค่าจ้าง 16,000 บาท บริษัทไม่สามารถใช้สิทธิหักเป็นรายจ่ายได้ 2 เท่าได้ แต่ยังคงหักรายจ่ายตามปกติ 1 เท่าได้ดังนั้น หักรายจ่ายได้ 16,000 บาท

 

5. ผู้สูงอายุเป็นลูกจ้างมากกว่า 1 แห่ง บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลใดจะได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560

  • บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสามารถใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 ได้เพียงบริษัทเดียว โดยบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่รับผู้สูงอายุเข้าทำงานก่อนจะเป็นผู้ได้รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้


6. หากรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สูงอายุเกิน 15,000 บาท เพียงบางเดือน บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะยังสามารถใช้สิทธิประโยชน์ตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 ในเดือนที่ไม่เกิน 15,000 บาท ได้หรือไม่

  • บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลมีสิทธินำรายจ่ายที่ได้จ่ายเป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างผู้สูงอายุเฉพาะในเดือนที่มีการจ่ายค่าจ้างไม่เกิน 15,000 บาท มาใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 290) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

 

7. ลูกจ้างในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่จะนำมาเป็นฐานในการคำนวณหาจำนวนลูกจ้างผู้สูงอายุที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 นั้น ต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย หรือไม่

  • ลูกจ้างบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลไม่จำต้องเป็นผู้มีสัญชาติไทย แต่ต้องทำงานเต็มเดือนในประเทศไทยในบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลนั้น

 

8.คำว่า “ที่ทำงานเต็มเดือนในแต่ละเดือน” ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 290) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 มีความหมายว่าอย่างไร

  • ที่ทำงานเต็มเดือนในแต่ละเดือน” หมายถึง ความเป็นนายจ้าง ลูกจ้างต้องมีอยู่เต็มเดือนในแต่ละเดือน หรือ สัญญาจ้างแรงงานมีอยู่ตลอดเดือนในแต่ละเดือน

 

9. บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ที่ขอใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามพระราชกฤษฎีกาฯ(ฉบับที่ 639) พ.ศ. 2560 จะต้องจัดทำรายงานใดบ้าง

  1. จัดทำรายงานเกี่ยวกับการจ้างงานผู้สูงอายุ ที่จะนำมาใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ตามแบบที่แนบท้ายประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 290) ลงวันที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560 โดยให้เก็บรักษารายงานดังกล่าวไว้ ณ สถานประกอบการ
  2. แจ้งข้อมูลของผู้สูงอายุ ที่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลจะนำมาใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้ ในแต่ละรอบระยะเวลาบัญชี ภายใน 150 วันนับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชี ตามแบบแจ้งการใช้สิทธิ บนระบบเครือข่ายของกรมสรรพากร http://www.rd.go.th

 

ที่มาข้อมูล : กรมสรรพากร