นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยความคืบหน้าประจำสัปดาห์การดำเนินการให้ความช่วยเหลือทางการเงินเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของกระทรวงการคลัง ว่า ตามนโยบายของรัฐในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเชิงรุกเพื่อต่อสู้กับปัญหาดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงการคลังได้รับมอบหมายให้เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับถาบันการเงินเฉพาะกิจ ได้แก่ ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ในการให้ความช่วยเหลือทางการเงินผ่านมาตรการสินเชื่อต่าง ๆ ได้แก่
โครงการสินเชื่อธนาคารประชาชน สินเชื่อเพื่อชำระหนี้สินนอกระบบ และสินเชื่อกองทุนหมุนเวียนเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ยากจน รวมถึงมาตรการสินเชื่อเพื่อช่วยเหลือและรองรับลูกหนี้นอกระบบที่ลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2566)
โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2566 – 25 เมษายน 2567 มีประชาชนที่เป็นหนี้นอกระบบได้รับอนุมัติให้ความช่วยเหลือทางการเงินไปแล้วจำนวน 9,928 ราย ยอดอนุมัติรวมทั้งสิ้น 470.96 ล้านบาท มีจำนวนประชาชนที่ได้รับความช่วยเหลือเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน (19 เมษายน 2567) จำนวน 513 ราย และเป็นยอดอนุมัติที่เพิ่มขึ้น 20.17 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน นอกเหนือจากการให้ความช่วยเหลือผ่านสถาบันการเงินเฉพาะกิจข้างต้นแล้ว กระทรวงการคลังได้ส่งเสริมให้มีการประกอบธุรกิจสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ (สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์) เพื่อเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้แก่ประชาชนรายย่อย
“สิ้นเดือนมีนาคม 2567 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และเปิดดำเนินการแล้วสะสมสุทธิ 1,140 ราย ใน 75 จังหวัด และ ณ สิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2567 มีการอนุมัติสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ให้กับประชาชนรายย่อยสะสมทั้งสิ้น 4,170,072 บัญชี รวมเป็นวงเงิน 40,281.11 ล้านบาท”
ทั้งนี้ ประชาชนที่สนใจขอกู้สินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ทั้ง 75 จังหวัด ได้ที่ www.1359.go.th นอกจากนี้ นิติบุคคลใด (บริษัทจำกัดหรือห้างหุ้นส่วนจำกัด) ที่สนใจประกอบธุรกิจสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์สามารถดูข้อมูลรายการยื่นคำขออนุญาตได้ที่ www.1359.go.th เช่นกัน หรือโทรสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ และขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาหนี้นอกระบบเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน 1359”