นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้ปรับการประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2567 โดยคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.4% จากเดิมที่คาดว่าเศรษฐกิจจะเติบโต 2.8% (ช่วงคาดการณ์ 1.9-2.9%)
“เศรษฐกิจไทยในปีนี้ยังมีแรงขับเคลื่อนจากภาคการท่องเที่ยว โดยคาดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเข้ามา 35.7 ล้านคน สร้างรายได้กว่า 1.59 ล้านบาท ทั้งนี้ คาดว่าการบริโภคจะขยายตัวได้ 3.5% ด้านการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวได้ 2.3%”
สำหรับปัจจัยที่ทำให้เศรษฐกิจปรับตัวลดลง ประกอบด้วย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่
อย่างไรก็ตาม หากมาตรการแจกเงินดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาทที่รัฐบาลกำลังเดินหน้านั้น หากสามารถมีการใช้จ่ายได้ภายในไตรมาส 4 ปี 2567 จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อและช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจไทยปี 2567 ให้เติบโตได้เกิน 3% และอาจสูงถึง 3.3% และคาดว่าจะมียอดการใช้จ่ายในปี 2567 กว่า 3.5 แสนล้านบาท
นายพรชัย กล่าวว่า แม้เศรษฐกิจจะขยายตัวลดลง แต่เสถียรภาพภายในประเทศมั่นคง โดยคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปอยู่ที่ 0.6% ต่อปี ตามการปรับตัวลดลงของราคาสินค้าอาหารบางกลุ่ม ราคาสินค้าหมวดพลังงานลดลงจากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพ
ขณะที่เสถียรภาพภายนอกประเทศ ดุลบริการมีแนวโน้มเกินดุลตามการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งจะส่งผลให้เงินดุลบัญชีเดินสะพัดกลับมาเกินดุล 10,000 ล้านบาท
ส่วนความเสี่ยงที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในที่ต้องติดตามใกล้ชิด ได้แก่ 1.ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ 2.ความผันผวนของตลาการเงินโลก และ3.การฟื้นตัวของเศรษฐกิจคู้ค้าของไทย