นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เผยผลดำเนินงาน บสย. ไตรมาส 1/2567 (ม.ค.-มี.ค.) ว่า ภายใต้นโยบายเชิงรุกเพื่อเสริมสภาพคล่อง SMEs ต่อเนื่องอนุมัติวงเงินค้ำประกันสินเชื่อรวมกว่า 14,432 ล้านบาท ช่วยผู้ประกอบการ SMEs 36,142 ราย ได้สินเชื่อ
โดยมีสัดส่วนค้ำประกันสินเชื่อในกรุงเทพ 42% และต่างจังหวัด 58% โดยยอดค้ำประกันสูงสุด 3 ลำดับแรกมาจากภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 17% ภาคใต้ 13% และ ภาคเหนือ 12%
ประเภทธุรกิจค้ำประกันสูงสุด 5 ลำดับแรก ได้แก่
ส่วนโครงการค้ำประกันสินเชื่อ ที่ได้รับความนิยมสูงสุดจากสถาบันการเงิน ได้แก่
ขณะที่มาตรการช่วยลูกหนี้แก้หนี้ยั่งยืน ได้รับความสนใจจากลูกหนี้ บสย. จำนวนมาก เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้ ผ่อนน้อย เบาแรง หนี้ลด หมดเร็ว พร้อมอัตราดอกเบี้ย 0% สามารถช่วยลูกหนี้ได้รับการประนอมหนี้ ระหว่าง เมษายน 2565 – 31 มีนาคม 2567 รวมกว่า 14,000 ราย
ด้านมาตรการ “ปลดหนี้” ไตรมาส1/2567 (ม.ค.-มี.ค.2567) มีลูกหนี้ร่วมโครงการ จำนวน 66 ราย มูลหนี้กว่า 14 ล้านบาท โดยโครงการปลดหนี้ เป็นโครงการนำร่องเฟสแรก ระยะเวลา 6 เดือน สิ้นสุด 30 มิ.ย. 2567
สำหรับการดำเนินงานในไตรมาส 2 ยังคงเน้นนโยบายเชิงรุก ตั้งเป้าช่วยผู้ประกอบการ SMEs เข้าถึงสินเชื่อต่อเนื่อง โดยมีโครงการที่ บสย. ดำเนินการเองรองรับความต้องการสินเชื่อ ได้แก่ โครงการ BI 7 (Bilateral) โครงการค้ำประกันสินเชื่อ Hybrid Guarantee โครงการค้ำประกันสินเชื่อค่าธรรมเนียมค้ำประกันตามระดับความเสี่ยง (Risk Based Pricing : RBP)
โดย บสย. อยู่ในระหว่างการนำเสนอโครงการต่างๆต่อกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาอนุมัติ เพื่อขยายโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อของผู้ประกอบการ SMEs ได้แก่
ทั้งนี้ บสย. พร้อมให้การสนับสนุนการขับเคลื่อนนโยบายรัฐบาล สมาคมธนาคารไทย และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ ประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยตามประกาศ 0.25% เพื่อช่วยเหลือ SMEs รายย่อย และกลุ่มเปราะบางต่อเนื่อง มีผล 1 พฤษภาคม นี้